สงขลาท่วมอีก ชาวบ้านโอด เยียวยารอบแรกก็ยังไม่ได้ สรรเพชญ เผยชงครม.สัญจรแก้ท่วมซ้ำซากแล้ว
จากมีฝนตกหนัก เป็นระยะช่วง 1-2 วัน ทำให้มีน้ำป่าไหลหลากลงมาผสมกับน้ำฝนที่ตกสะสม เอ่อท่วมถนนกาญจนวนิช (สงขลา-หาดใหญ่ สายเก่า) ในพื้นที่ อ.เมือง ได้ท่วมถนนการสัญจรไปมาด้วยความยากลำบากและยังไหลเอ่อเข้าบ้านเรือนประชาชน อาทิ บ้านควนหิน ต.พะวง บ้านบางดาน ต.เขารูปช้าง ต.ทุ่งหวัง ต.เกาะแต้ว แยกน้ำกระแยก ซึ่งทั้งหมดพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก
เมื่อเวลา 22.00 น วันที่ 24 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปตรวจสอบอีกครั้ง ยังพบว่ากระแสน้ำ ไหลหลาก เอ่อท่วมถนน สูงประมาณ 30-50 เซนติเมตร ระยะทางยาวประมาณ 2 กิโลเมตร ซึ่งเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลพะวง ได้ปิดกั้นถนนฝั่งขาเข้าอำเภอหาดใหญ่ และเปิดให้ประชาชนใช้เส้นทางเดินรถได้เพียง 1 เลน ริมเกาะกลางถนน ในฝั่งตรงข้ามเท่านั้น ผู้ใช้รถยนต์บางคันได้ขับฝากกระแสน้ำแต่ปรากฏว่ากระแสน้ำไหลเชี่ยวและบางจุดน้ำท่วมสูงทำให้รถดับ
นางสาวเจนจิรา เหมชรา เสื้อสีเขียว แม่ค้าขายยำบอกว่า วันนี้กระแสน้ำไหลแรง และเอ่อสูงจนเข้าท่วมร้านอย่างรวดเร็ว ทำให้ทรัพย์สินในร้านได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้า อย่างเช่นตู้เย็น และวัตถุดิบที่ใช้ผลิตอาหาร ที่ไม่สามารถขนย้ายได้ทันเสียเช่นกันซึ่งตนก็ยังกังวล ว่าถ้าคืนนี้มีฝนตกหนักลงมาอีกน้ำก็จะเข้าท่วมร้านอีกครั้งทำให้ต้องอยู่เฝ้าร้าน
นางสาวเจนจิรากล่าวว่า ตนอยากจะทวงถามเงินเดียวยาผู้ประสบภัยน้ำท่วม 9,000 บาท ซึ่งรอบก่อนที่น้ำท่วมช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน-ต้นเดือนเดือนธันวาคม 2567 ก็ยังไม่ได้รับเงินเยียวยาดังกล่าว จนกระทั่งถูกน้ำท่วมรอบ 2 แล้วก็ยังไม่รู้ว่าจะได้รับเงินเยียวยาเมื่อไหร่
ทางด้าน นายสรรเพชญ บุญญามณี สส.สงขลา เขต 1 กล่าวว่าน้ำท่วมใน อ.เมืองบางพื้นที่เป็นพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมซ้ำซาก บางครั้งฝนตกหนักไม่กี่ชั่วโมง น้ำเอ่อท่วมถนนสูงทำให้ผู้ใช้รถใช้ถนนได้รับความเดือดร้อน ส่วนปัญหาเกิดจาก ทางระบายน้ำ คูระบายน้ำ มีขนาดเล็ก และ เส้นทางน้ำที่จะไหลลงคลองในพื้นที่ถูกทับถมจากบ้านเรือนของชาวบ้าน และโรงงาน เมื่อมีฝนตกหนัก น้ำป่าไหลหลาก ทำให้ไม่สามารถระบายน้ำได้ทัน จนทำให้ชาวบ้านและผู้ใช้รถใช้ถนน ประชาชนได้รับความเดือดร้อนทุกครั้งที่มีฝนตกหนัก
นายสรรเพชญกล่าวว่าปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากเพิ่มมากขึ้นทุกปี ได้เสนอรัฐมนตรีสัญจรไปแล้วเรื่องโครงการแก้ปัญหาพื้นที่น้ำซ้ำซากซึ่งมีหลายจุดและเรื่องเงินเยียวยาน้ำท่วมรอบที่ 1/2567 มีประชาชนจำนวนมากยังไม่ได้รับเยียวยาความเดือดร้อน
