ผู้การจันทบุรีสั่ง ‘ร.ต.ท.’ สารวัตรสายงานสืบสวน สภ.มะขาม ออกจากราชการ เซ่นพิษรุกป่าเขาบ่อทอง
เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ จากกรณีข้อร้องเรียนนายทุนนำเครื่องจักรบุกรุกเขาตัดไม้ปรับพื้นที่บนเขาบ่อทอง ต.วังแซ้ม อ.มะขาม จ.จันทบุรี โดยพบว่ามี ร.ต.ท. ตำแหน่งรองสารวัตร ประจำตู้ยามในพื้นที่ มีส่วนเกี่ยวข้อง จนมาสู่การออกคำสั่งย้ายตำรวจคนดังกล่าวกลับมาปฏิบัติหน้าที่ควบคุมผู้ต้องหา ประจำ สภ.มะขาม และรวบรวมพยานหลักฐานสืบสวน พร้อมแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน
สืบเนื่องจาก ร.ต.ท. นายดังกล่าว คือ ร.ต.ท.คำมี รอง สว.(สายงานสืบสวน) สภ.มะขาม ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง กรณีที่ ร.ต.ท.คำมี และ น.ส.สุวรรณา ซึ่งเป็นภรรยา ทำสัญญาชื้อขายที่ดิน ภ.บ.ท.5 ตั้งอยู่บริเวณเขาบ่อทอง ต.วังแซ้ม อ.มะขาม จ.จันทบุรี มาจาก น.ส.เกษรา และนายเรวัฒน์ สองแม่ลูก
ต่อมา ร.ต.ท.คำมี และ น.ส.สุวรรณา ได้ร่วมกันปรับพื้นที่และตัดไม้ประเภทกระท้อนป่า, กระบกป่า, ยมหิน, นนทรี, พนอง, มะหาด, ชุมแพรก, ขนุนป้า และต้นขนุน ในที่ดิน ภ.บ.ท.5 ที่ได้ซื้อมา จึงถูกพนักงานสอบสวน สภ.มะขาม ดำเนินคดีความผิดข้อหาร่วมกันก่อสร้างแผ้วถางหรือเผาป่า เหตุเกิดระหว่างวันที่ 25 พ.ย.67 ถึงวันที่ 25 ม.ค.68
ล่าสุด ตำรวจภูธรจันทบุรี โดย พล ต.ต.ผดุงศักดิ์ รักษาสุข ได้ออกคำสั่งตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี ที่ 63/2568 ให้ ร.ต.ท.คำมี ตำแหน่งรองสารวัตร (สายงานสืบสวน) สภ.มะขาม จ.จันทบุรี ออกจากราชการไว้ก่อนในข้อกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง จนถูกตั้งกรรมการสอบสวนและต้องหาว่าได้กระทำความผิดอาญาข้อหาร่วมกันก่อสร้าง แผ้วถาง หรือเผาป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือครองป่า เพื่อตนเองหรือผู้อื่น เว้นแต่จะกระทำภายในเขตที่ได้จำแนกไว้เป็นประเภทเกษตรกรรม และรัฐมนตรีได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา หรือโดยได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่แผ้วถาง หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือหรือครอบครองป่าเพื่อตนเอง หรือผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่และมีไว้ในความครอบครอง ซึ่งไม้หวงห้ามอันมิได้แปรรูปในลักษณะเป็นต้นหรือท่อนปริมาตรเกิน 4 ลูกบาศก์เมตร โดยไม่มีรอยตราค่าภาคหลวงหรือรอยตรารัฐบาลขาย มีเหตุให้พักราชการตามกฎ ตร.ว่าด้วยการสั่งพักราชการ และการสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน พ.ศ.2547 ข้อ 3 (1) คือถูกตั้งกรรมการสอบสวนหรือต้องหาว่ากระทำความผิดอาญาในเรื่องเกี่ยวกับความประพฤติหรือพฤติการณ์อันไม่น่าไว้วางใจ
ถ้าให้ ร.ต.ท.คำมี คงอยู่ในหน้าที่ราชการต่อไป อาจเกิดการเสียหายแก่ราชการ และได้พิจารณาแล้วเห็นว่า การสอบสวนพิจารณาคดีที่เป็นเหตุให้สั่งพักราชการนั้นจะไม่แล้วเสร็จโดยเร็ว
ดังนั้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 131 มาตรา 179 แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 ประกอบกับข้อ 3 (1) และข้อ 8 แห่งกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการสั่งพักราชการและการสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน พ.ศ.2547 จึงให้ ร.ต.ท.คำมี ออกจากราชการไว้ก่อน เพื่อรอฟังผลการสอบสวน พิจารณาทางวินัย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ.2568 เป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ 24 ก.พ.2568
อนึ่ง ผู้ถูกสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนตามคำสั่งนี้มีสิทธิอุทธรณ์ต่อ ก.พ.ค.ตร.ได้ภายใน 30 วัน