ผลสอบออกแล้ว เด็กโรงเรียนอนุบาลทำร้ายกันเอง ไม่ใช่ฝีมือครู แม่ผู้เสียหายถอนแจ้งความ

รองผู้ว่าฯภูเก็ต แถลงข่าวกรณีนักเรียนชั้นอนุบาล ทำร้ายร่างกายกันได้รับบาดเจ็บ ในพื้นที่ป่าตอง แม่เด็กแจ้งความเอาผิด ล่าสุด หลังทราบผลสอบสวนได้ถอนแจ้งความแล้ว

เมื่อวันที่ 3 มีนาคม ที่ห้องประชุมชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต, พ.ต.อ.เฉลิมชัย เหิรสวัสดิ์ ผกก.สภ.ป่าตอง, นายเฉลิมพงศ์ แสงดี ส.ส.ภูเก็ต เขต 2 พรรคประชาชน ร่วมกันแถลงข่าวกรณีเด็กนักเรียนอนุบาลโรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่ป่าตองถูกทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บบริเวณแผ่นหลัง เหตุเกิดเมื่อ 7 ก.พ.68 ซึ่งครูประจำชั้นแจ้งว่ารอยแผลดังกล่าวเกิดจากเด็กชายอีกรายเป็นคนลงมือตีเพราะเด็กทะเลาะกัน แต่แม่ของเด็กผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง และทำความจริงให้กระจ่างให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

นายรณรงค์กล่าวว่า กรณีดังกล่าวผู้ปกครองเด็กได้แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษไว้ที่ สภ.ป่าตอง พนักงานสอบสวน สภ.ป่าตอง โดยผู้กำกับการ สภ.ป่าตอง ดำเนินการสอบสวน ซึ่งผู้เสียหายเป็นเด็ก จึงมีกระบวนการสอบสวนโดยกลุ่มสหวิชาชีพ ทำการสอบสวนร่วมกัน

ผลการสอบสวนพบว่า เด็กไม่ได้ถูกครูทำร้าย แต่เกิดจากเด็กทำร้ายกันเอง ซึ่งเด็กที่ก่อเหตุเรียนอีกห้องหนึ่ง เป็นที่ทราบแล้วว่าคุณครูไม่ได้ทำร้ายเด็ก

ADVERTISMENT

การตรวจสอบข้อเท็จจริงของจังหวัดมุ่งไปที่ประเด็นความรับผิดชอบที่ปล่อยให้มีการเล่นกันจนเกินเลยของเด็ก ซึ่งครูจะต้องรับผิดชอบ และคณะกรรมการของจังหวัดจะทำการสอบเพิ่มเติม เรื่องอย่างนี้นานๆ เกิดขึ้น จึงมีการตรวจสอบประวัติคุณครู และทางจังหวัดมีการตรวจสอบตามกระบวนการ ติดตามค้นหาความจริง และไม่ทอดทิ้งเด็ก ซึ่งเทศบาลเมืองป่าตองจะหาแนวทางมาตรการไม่ให้เกิดเหตุดังกล่าวขึ้นอีก

พ.ต.อ.เฉลิมชัยกล่าวว่า เคสนี้เริ่มจากผู้ปกครองของเด็กโพสต์ในโซเชียล ตำรวจได้ตรวจสอบและแนะนำให้ผู้เสียหายแจ้งความที่ สภ.ป่าตอง โดยตำรวจได้สืบสวนเข้าเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ ซึ่งการสอบสวนครั้งนี้ มีพยานเป็นเด็ก 5 ขวบ ดังนั้น สหวิชาชีพจึงทำการสอบสวนที่สำนักงานอัยการ มีอัยการเป็นประธานการสอบ ทำการสอบอยู่ 2 วัน และมีการทดสอบโดยให้เด็กกำกระดาษและตี ปรากฏว่าเด็กตีแรง ตีจนขึ้นแนว จึงเชื่อได้ว่าบาดแผล หรือร่องรอยที่เกิดขึ้นกับเด็กในวันแรก เป็นไปได้ที่เกิดจากกลุ่มของเด็กเพื่อนๆ เล่นกันและเกิดความรุนแรง

พ.ต.อ.เฉลิมชัยกล่าวว่า สุดท้ายในการสอบสรุปว่าเป็นการกระทำของเด็กเอง และผู้เสียหายที่เป็นผู้ปกครองไม่ติดใจเอาความ ตอนนี้แม่ของเด็กมาถอนแจ้งความ ไม่ประสงค์ดำเนินคดีแล้ว และผลตรวจของแพทย์ออกมาน่าจะเป็นคดีลหุโทษ ยอมความกันได้ และผู้เสียหายไม่ติดใจเอาความ จึงจะนัดกันมาลงบันทึกประจำวันให้เรียบร้อย โดย ครูและ พม.จะร่วมกันเป็นพยานดังกล่าว

ด้านนายเฉลิมพงศ์กล่าวว่า กรณีนี้มีการกล่าวหาการทำร้ายร่างกายกัน ทำให้สังคมตื่นตระหนก ต้องขอบคุณคณะกรรมการทุกท่านที่ร่วมกันแสวงหาความจริง โดยส่วนตัวพยายามให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ทั้งเด็กที่ต้องเยียวยาจิตใจ รวมถึงผู้ปกครองและคุณครูที่ดูแลใส่ใจดูแลเด็กอยู่แล้ว ต้องช่วยกันเยียวยาจิตใจคุณครูด้วย และคงต้องพูดถึงมาตรการความปลอดภัยในโรงเรียน กล้อง CCTV งบประมาณการจัดจ้างบุคลากรครูเพิ่มเติม และคุณครูประจำชั้นที่ต้องมีมากกว่า 1 คน รองรับและดูแลเด็กนักเรียนภายในชั้นเรียนเพื่อให้ระบบการศึกษาในประเทศไทยให้ดีขึ้นกว่าเดิม ทำให้มีการเรียนดีใส่ใจ ดูแลครบทุกมิติ ต้องทำเป็นนโยบายการต่อไปในอนาคต

ขณะที่ น.ส.ลลิตา มณีศรี รองนายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง กล่าวว่า ในนามคณะผู้บริหารเทศบาลเมืองป่าตองและตัวแทนโรงเรียนในพื้นที่ป่าตอง ขอโทษอีกครั้งกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น บทสรุปออกมาแล้วว่าคุณครูไม่ได้มีความผิด เป็นการเกิดขึ้นระหว่างเด็กกับเด็ก จึงขอความเป็นธรรมให้คุณครูในส่วนนี้ที่ทำการสอนมานาน

“วันนี้ครูได้รับความเป็นธรรมแล้ว แต่เด็กก็ไม่ได้ผิดอะไร จึงขอน้อมรับความผิดไว้ทั้งหมด จะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก โดยพยายามจะดูแลทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นคุณครูก็จะเน้นความปลอดภัยมากขึ้น กล้อง CCTV และบุคลากรในการสอนเด็ก จะดูแลอย่างดี นำไปปรับปรุงแก้ไข และในส่วนของคุณครูได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนระหว่างคณะกรรมการจังหวัดกับเทศบาลเมืองป่าตอง จะสอบเพิ่มเติม ในส่วนของคุณครูที่มีความผิดที่ปล่อยให้เกิดเรื่องขึ้น”

ด้านคุณครูประจำชั้นกล่าวว่า ต้องขอโทษต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆ โดยออกไปทานข้าวจนเกิดเหตุการณ์นี้ หวังว่าในอนาคตจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีกแล้ว