ตรังเอาจริง รับลูก “นายกฯอิ๊งค์” ลุยล้างบางบุหรี่ไฟฟ้า-บารากู่ทุกพื้นที่ ผวจ.สั่งทุกหน่วยกวดขันเยาวชน-กลุ่มเปราะบาง ผู้การ ตร. สั่งเอกซ์เรย์ทุกตารางนิ้ว แหล่งจำหน่าย-โกดังพักสินค้า หาข่าวขยายผลหลังจับโกดังใหญ่กลาง กทม.
เมื่อวันที่ 4 มีนาคม ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง นายทรงกลด สว่างวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เป็นประธานการแถลงข่าวผลการปฏิบัติกวาดล้างอาชญากรรม การจับกุมอาวุธปืน และระดมจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2568 โดยมี พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง กอ.รมน.จังหวัดตรัง ฝ่ายปกครอง และส่วนที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าว โดยนายทรงกลดแถลงว่า ในส่วนของการปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้าและบารากู่ เนื่องจากเป็นบัญชาการของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตนได้ไปประชุมร่วมกับส่วนกลางคือคณะกรรมการในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเรารณรงค์เรื่องนี้กันอย่างเข้มข้น ซึ่งในเรื่องการผสมต่างๆ มันมีผลกระทบต่อร่างกายมากกว่าบุหรี่ทั่วไปด้วยซ้ำ ซึ่งเรื่องนี้เป็นนโยบายที่เราได้กวดขันมาตลอดอยู่แล้ว และยิ่งนายกฯเน้นย้ำอีก เราก็ต้องเข้มข้นมากขึ้น โดยตนได้สั่งการไปยังหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง อาทิ ศึกษาธิการจังหวัด พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด ให้เข้มข้นและดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเยาวชนและกลุ่มเปราะบางทั้งหลาย
ด้าน พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง กล่าวว่า ในส่วนของการปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้า เนื่องจากเป็นบัญชาการของนายกรัฐมนตรี ในการสั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดในการกวดขันปราบปราม โดยสำหรับพื้นที่จังหวัดตรังในเรื่องนี้เราทำงานบูรณาการประสานการทำงานร่วมกันทั้งฝ่ายตำรวจ ฝ่ายความมั่นคง และฝ่ายปกครอง ซึ่งเรื่องนี้เราจะดำเนินการปราบปรามกันอย่างจริงจัง ซึ่งที่ผ่านมาตำรวจภูธรจังหวัดตรังได้มีผลการปฏิบัติมาอยู่แล้ว แต่หลังจากนี้ก็ต้องเข้มข้นขึ้นในทุกมิติ โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชน สถานศึกษา ไปจนถึงในพื้นที่ตำบลหมู่บ้าน โดยเฉพาะบรรดาร้านค้าต่างๆ ทั้งร้านขนาดใหญ่และร้านขายของชำที่อาจจะมีการแอบแฝงจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า รวมไปถึงสถานที่ โกดักเก็บพักสินค้า โดยจะระดมทุกภาคส่วนเข้าไปตรวจสอบตรวจตรากันอย่างจริงจัง
“เรื่องการปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้า ตำรวจภูธรจังหวัดตรังได้ติดตามผลการดำเนินงานจากพื้นที่อื่นๆทั่วประเทศ รวมถึง กทม. เรื่องแผนการทำดำเนินการต่างๆตามนโยบายนายกฯ เพื่อนำมาปรับใช้กับการดำเนินการในพื้นที่ โดยเราได้ติดตามการจับตรวจยึดจุดพักสินค้าในพื้นที่ กทม. มูลค่าหลายสิบล้านบาทเมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา และเชื่อว่าจุดพักเหล่านี้อาจเป็นแหล่งกระจายสินค้าไปตามภูมิภาคต่างๆ จึงได้สั่งให้มีการหาข่าว ทั้งร้านจำหน่าย โดยเฉพาะจุดพัก โกดังสินค้าในพื้นที่เพื่อเข้าปราบปรามอย่างจริงจังต่อไป และขอให้ผู้ทราบเบาะแส จุดจำหน่าย จุดพักต่างๆ ขอให้แจ้งมายังตำรวจ เราจะเข้าไปกวดขัน กวาดล้าง จับกุมอย่างจริงจัง” ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรังกล่าว
