ไม่จบ! “ส.ส.กาญจน์” ขึ้นเกาะพบชาวบ้านเกาะมุกด์ พร้อมประสาน ทส. ยกเลิกป่านันทนาการ เป็นป่าชุมชนแทน หลังป่าไม้ทวงคืนพื้นที่จับจองเพื่อจัดระเบียบ หลังยึดคืนจากนายทุนสร้างรีสอร์ตหรู
วันที่ 5 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรังว่า เฟซบุ๊กแฟนเพจพรรคประชาธิปัตย์ – Democrat Party, Thailand ได้โพสข้อความข่าวพร้อมภาพประกอบ ระบุ เมื่อวันที่ 4 มีนาคม ที่ผ่านมา ในการประชุม ส.ส. ของพรรค นายกาญจน์ ตั้งปอง ส.ส.จังหวัดตรัง พรรคประชาธิปัตย์ ได้รายงานในที่ประชุมฯ ว่า เมื่อวันที่ 2 มีนาคม ที่ผ่านมา ตนได้เชิญรองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.) เกาะลิบง และผู้นำในพื้นที่ เพื่อจัดประชุมร่วมกับชาวบ้านกว่า 200 คน เพื่อรับฟังความคิดเห็นปัญหา จากกรณีที่มีเจ้าหน้าที่ติดอาวุธเข้ามาในพื้นที่ บ้านเกาะมุกด์ ต.เกาะลิบง อ.กันตัง ทำให้ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวตื่นตระหนก ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของสถานที่ท่องเที่ยว
โดยผลจากการประชุมฯ ดังกล่าว ชาวบ้านมีข้อเสนอดังต่อไปนี้ 1.เสนอให้พื้นที่ดังกล่าวกลับมาเป็นป่าชุมชน เนื่องจากปัจจุบันบริเวณหาดฝรั่ง อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเกาะมุกด์ ทำให้บริเวณชายหาดถูกประกาศให้เป็นพื้นที่ป่านันทนาการ ตามพระราชกฤษฎีกาป่านันทนาการ ชาวบ้านในพื้นที่มีความกังวลว่าจะมีหน่วยงานราชการเข้ามาเก็บค่าธรรมเนียมนักท่องเที่ยวเพิ่มเติม และทำให้เกิดการคิดค่าธรรมเนียมซ้ำซ้อน ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบทำให้นักท่องเที่ยวลดน้อยลงและชาวบ้านที่ประกอบอาชีพในละแวกนั้นขาดรายได้ 2.ชาวบ้านในพื้นที่คัดค้านการสร้างศูนย์บริการนักท่องเที่ยวที่หาดฝรั่ง เนื่องจากโครงการเหล่านี้ไม่ได้ตอบสนองความต้องการของชุมชนและอาจทำให้เกิดผลกระทบเชิงลบต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังขาดการมีส่วนร่วมจากประชาชนทำให้เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม
นายกาญจน์ กล่าวอีกว่า ตนได้รวบรวมความคิดเห็นเพื่อนำไปประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้สร้างความไว้วางใจระหว่างชาวบ้านและภาครัฐ และพร้อมผลักดันแนวทางแก้ไขที่สามารถส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนในชุมชนได้ โดยมุ่งหวังให้ชาวบ้านและภาครัฐสามารถอยู่ร่วมกันอย่างสมานฉันท์
“ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นเป็นผลจากการขาดการสื่อสารที่ดีและการมีส่วนร่วมของชุมชน หากภาครัฐสามารถสร้างกระบวนการที่โปร่งใสและรับฟังความคิดเห็นของชาวบ้านมากขึ้น ก็จะช่วยลดความขัดแย้งและสร้างแนวทางการพัฒนาที่ทั้งรักษาทรัพยากรธรรมชาติและยังคงรักษาอัตลักษณ์ของชุมชนไปพร้อมกัน”นายกาญจน์ กล่าว
ขณะที่ในการประชุม ส.ส. ของพรรค นายอภิชาต ศักดิเศรษฐ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ได้เข้าร่วมประชุมในฐานะรองหัวหน้าพรรค ก็ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ในท้องที่ ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเกาะมุก ซึ่งกรมป่าไม้ได้กำหนดให้เป็นป่านันทนาการ เมื่อปี 2564 และเป็นป่านันทนาการทางทะเล เช่นเดียวกับป่านันทนาการหาดฟรีด้อม จ.ภูเก็ต ซึ่งเคยมีสภาพปัญหาคล้ายคลึงกัน แต่ด้วยการบริหารจัดการที่ดึงทุกฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วมในที่สุดก็ลงเอยด้วยดี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีดังกล่าวสืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2568 กรมป่าไม้ ได้ส่งเจ้าหน้าที่พร้อมสนธิกำลังกันหลายหน่วยงาน ลงพื้นที่จัดระเบียบร้านค้าบริเวณหาดฝรั่ง ซึ่งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเกาะมุกด์ หมู่ที่ 2 ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง เนื้อที่ 46 ไร่ ซึ่งเดิมเคยเป็นรีสอร์ตหรูของนายทุนที่ออกเอกสารสิทธิ์ นส.3 มิชอบ และกรมป่าไม้ยึดคืนมาได้ตามคำพิพากษาศาลที่ให้รื้อถอนสิ่งก่อสร้างออกไปทั้งหมด ต่อมาปี 2564 กรมป่าไม้ประกาศให้เป็นป่านันทนาการ พร้อมกับป่านันทนาการอื่นๆรวม 10 แห่งทั่วประเทศ และเป็นป่านันทนาการทางทะเลเพียงแห่งเดียว และมีความสวยงามมากรองจากเกาะกระดานชายหาดที่ดีที่สุดในโลก
แต่ต่อมาชาวบ้านในพื้นที่กว่า 10 ราย ได้เข้าจับจองตั้งร้านค้าขายอาหารและเครื่องดื่มบริการนักท่องเที่ยวมาประมาณกว่า 3 ปีแล้ว โดยมีการตั้งร้านค้า และสิ่งอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยว ทั้งโต๊ะ เต็นท์ผ้าใบ เก้าอี้ เก้าอี้เอนนอนเต็มบริเวณชายหาด ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องลงจัดระเบียบเพื่อความสวยงาม และกันพื้นที่ชายหาดเป็นส่วนพื้นที่นันทนาการ หลังทำความเข้าใจกันเป็นเวลานาน
สุดท้ายกลุ่มผู้ค้าจึงยอมถอยร่นร้านค้าไปอยู่ในจุดที่เจ้าหน้าที่กำหนด และให้ค้าขายตามปกติ และยอมรื้อเก้าอี้ที่รุกล้ำชายหาดออกบางส่วนตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ และหลังจากก่อสร้างป้อมยาม อาคารที่ทำการ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว และห้องสุขา เพื่อบริการนักท่องเที่ยวแล้วเสร็จ ก็จะเข้าสู่กระบวนบริหารจัดการการใช้ประโยชน์ในพื้นที่ร่วมกันในรูปแบบคณะกรรมการร่วมบริหารจัดการพื้นที่ป่านันทนาการ ซึ่งจะมีตัวแทนชาวบ้านร่วมด้วย ในการกำหนดหลังเกณฑ์การจัดเก็บค่าบริการ ทั้งนักท่องเที่ยว เรือ รถ ร้านค้า ที่เข้าไปใช้ประโยชน์พื้นที่ แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีเจ้าของร้านค้าบางราย ยังไม่เห็นด้วยที่จะให้มีการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างดังกล่าว โดยอ้างว่าจะต้องให้ผ่านประชามติความเห็นชอบของชาวบ้านก่อน ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้ว