ยังมากันไม่หยุด! สังขละบุรีไล่จับแรงงานเถื่อนทั้งวันทั้งคืน เผยยอดทะลุพันคน

ยังมากันไม่หยุด! สังขละบุรีไล่จับแรงงานเถื่อนทั้งวันทั้งคืน เผยยอดทะลุพันคน

พล.ต.อัษฎาวุธ ปันยารชุน ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 9 ในฐานะผู้บัญชาการกองกำลังสุรสีห์, นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี, พล.ต.ต.พรชัย ชลอเดช ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากชุดปฏิบัติการข่าวในพื้นที่ ว่าจะมีขบวนการลักลอบขนแรงงานผิดกฎหมายจากพื้นที่ชายแดนกาญจนบุรี ผ่านช่องทางธรรมชาติบ้านบ่อญี่ปุ่น ด้านชายแดนอำเภอสังขละบุรี เป็นจำนวนมาก เมื่อช่วงค่ำวันที่ 4 มีนาคมที่ผ่านมา จึงสั่งการให้ พ.อ.พรรณศักย์ เพรียวพานิช ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 29 ในฐานะผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ พร้อมด้วย พ.อ.ปิยะเณศร์ ภัทรศาศวัตวงษ์ รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์, นายสุริยศักดิ์ เหมือนอ่วม นายอำเภอสังขละบุรี, พ.ต.อ.ไพฑูรย์ ศรีวิลัย ผกก.สภ.สังขละบุรี บูรณาการเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ เจ้าหน้าที่ ตชด.134 และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอสังขละบุรี ออกลาดตระเวนหาข่าวเพื่อติดตามจับกุม

ต่อมาได้รับแจ้งว่าพบกลุ่มแรงงานเป็นจำนวนมากหลบซ่อนตัวอยู่บริเวณป่าไผ่ริมลำห้วยซองกาเรีย หมู่ 3 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จึงนำกำลังไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงเป็นไปตามที่ได้รับแจ้ง เจ้าหน้าที่จึงทำการปิดล้อมพร้อมส่งสัญญาณเข้าจับกุม โดยสามารถจับกุมตัวเอาไว้ได้ จำนวน 30 คน ซึ่งแรงงานชาวเมียนมาทั้ง 30 รายเป็นชาย อายุเฉลี่ยอยู่ที่ 16-38 ปี

แรงงานที่ถูกจับได้ไม่มีเอกสารการได้รับอนุญาตให้เข้ามาในราชอาณาจักรไทย อีกทั้งสื่อสารภาษาไทยไม่ได้ เจ้าหน้าที่จึงนำตัวไปสอบปากคำที่ สภ.สังขละบุรี จากการสอบปากคำผ่านล่าม ทั้งหมดให้การว่า หลบหนีเข้ามาด้วยการใช้ช่องทางธรรมชาติจากฝั่งอำเภอพญาตองซู ประเทศเมียนมา โดยมีชาวเมียนมาด้วยกันนำพาเดินลัดเลาะไปตามชายป่าเพื่อหลบด่านตรวจ

จากนั้นคนนำพาได้สั่งให้นั่งคอยอยู่ชายป่าริมลำห้วยซองกาเรียจนกว่าจะมีเรือมารับ ทั้งหมดมีเป้าหมายเดินทางไปทำงานพื้นที่จังหวัดชั้นในของไทย ระหว่างรอคนขับเรือมารับก็มาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้เสียก่อน หลังจากผู้ต้องหายอมรับสารภาพจึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.สังขละบุรี ดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง ในข้อกล่าวหากระทำความผิดฐาน “เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมาย”

ADVERTISMENT

ต่อมาเวลาประมาณ 19.30 น. เจ้าหน้าที่ชุดเดียวกันได้รับแจ้งเพิ่มเติมว่าพบกลุ่มแรงงานชาวเมียนมาหลบซ่อนตัวอยู่บริเวณสวนส้มโอ ด้านหลังเกษตรพื้นที่สูง ท้องที่หมู่ 8 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จึงนำกำลังติดตามไปจับกุม และสามารถจับกุมตัวได้ จำนวน 4 คน เป็นชาย 3 คน หญิง 1 คน อายุเฉลี่ยอยู่ที่ 27-38 ปี แรงงานที่ถูกจับได้ทั้ง 4 คน ไม่มีเอกสารการได้รับอนุญาตให้เข้ามาในราชอาณาจักรไทย อีกทั้งสื่อสารภาษาไทยไม่ได้ เจ้าหน้าที่จึงนำตัวไปสอบปากคำที่ สภ.สังขละบุรี

จากการสอบปากคำผ่านล่าม ทั้งหมดให้การคล้ายกันว่า หลบหนีเข้ามาด้วยการใช้ช่องทางธรรมชาติจากฝั่งอำเภอพญาตองซู ประเทศเมียนมา โดยมีนายฉี ชาวเมียนมาด้วยกันนำพาเดินลัดเลาะไปตามชายป่าเพื่อหลบด่านตรวจ แล้วมานั่งรอรถมารับที่สวนส้มโอ เพื่อเดินทางไปทำงานพื้นที่จังหวัดชั้นในโดยจะจ่ายค่าหัวให้กับผู้นำพาคนละ 16,000 บาท ระหว่างรอก็มาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้เสียก่อน หลังจากผู้ต้องหายอมรับสารภาพเจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.สังขละบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลาประมาณ 20.00 น. ขณะที่ พ.ต.ต.ประดิษฐ์ แร่เพชร สวป.สภ.สังขละบุรี ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ เจ้าหน้าที่ร้อย ตชด.134 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอสังขละบุรี สนธิกำลังออกตรวจการทางน้ำ เมื่อไปถึงบริเวณสะพานลูกบวบ พบเรือหางยาวขนาดใหญ่กำลังลอดใต้สะพานไม้อุตตมานุสรณ์ หรือสะพานมอญ หมู่ 2 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี แบบไม่ได้ยินเสียงเครื่องยนต์ ท่าทางมีพิรุธ และขณะกำลังมาถึงสะพานลูกบวบ เจ้าหน้าที่จึงส่งสัญญาณเรียกให้คนขับหยุดเรือเพื่อขอตรวจค้น เมื่อคนขับเรือเห็นเจ้าหน้าที่ได้กระโดดลงจากเรือแล้วว่ายน้ำหนีไปโดยไม่ทราบทิศทาง เจ้าหน้าที่พยายามติดตามด้วยการส่องไฟฉายแต่ไม่พบ เนื่องจากขณะนั้นท้องฟ้ามืดแล้ว

และจากการตรวจสอบเรือของกลางยาวประมาณ 8 เมตร กว้าง 1.5 เมตร พบแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมานอนขวางสลับกันไปมาเต็มลำเรือ รวม 10 คน เป็นชาย 2 คน หญิง 8 คน และพบโทรศัพท์มือถือของคนขับเรือที่ว่ายน้ำหนีไป 1 เครื่อง เจ้าหน้าที่จึงเก็บเอาไว้เป็นของกลาง ส่วนเรือของกลางเจ้าหน้าที่ได้ทำการเคลื่อนย้ายไปเก็บไว้ที่ สภ.สังขละบุรี สำหรับแรงงานที่ถูกจับกุมตัวได้อายุเฉลี่ยอยู่ที่ 19-29 ปี ทั้งหมดไม่มีเอกสารใดๆ มาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ อีกทั้งสื่อสารภาษาไทยไม่ได้ จึงนำตัวไปสอบปากคำที่ สภ.สังขละบุรี

ผู้ต้องหาให้การผ่านล่ามว่า พวกตนอาศัยอยู่จังหวัดชั้นในของประเทศเมียนมา ก่อนหน้านี้ไปติดต่อกับญาติที่ทำงานอยู่พื้นที่จังหวัดชั้นในของไทยว่าจะไปทำงานด้วย ซึ่งญาติจะออกค่าใช้จ่ายให้กับนายหน้าเอง เมื่อตกลงกันได้พวกตนจึงเดินทางมาที่อำเภอพญาตองซู จากนั้นมีชาวเมียนมานำพาเดินลัดเลาะข้ามชายแดนเข้ามาด้วยการใช้ช่องทางธรรมชาติ แล้วมาลงเรือที่ลำห้วยซองกาเรีย ระหว่างเดินทางทางเรือก็มาถูกเจ้าหน้าที่ตรวจการทางน้ำจับกุมตัวได้เสียก่อน ส่วนคนขับเรือได้กระโดดลงน้ำแล้วว่ายหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว

หลังจากผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพ เจ้าหน้าที่ชุดตรวจการทางน้ำจึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.สังขละบุรี ดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมืองในข้อกล่าวหา กระทำความผิดฐาน “เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมาย”

ทั้งนี้ ตั้งแต่ห้วงเดือนมกราคม 2568 ถึงปัจจุบัน หน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ สามารถบูรณาการร่วมกับ ฝ่ายความมั่นคง และหน่วยงานราชการทุกภาคส่วนในพื้นที่ จับกุมผู้ลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายในพื้นที่ชายแดนกาญจนบุรีได้กว่า 71 ครั้ง รวมแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายกว่า 1,000 คน