ศอ.ปกป.ภาค 3 สน.ระดมอากาศยาน ทบ.ทอ.ทส.และฝนหลวงดับไฟป่าภาคเหนือ หลังเกิดจุดความร้อน 1,368 จุด สูงสุดที่ลำปาง 350 จุด
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 6 มีนาคม ที่ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาค 3 หรือ ศอ.ปกป.ภาค 3 สน. อ.แม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ พล.ต.ชายแดน กฤษณสุวรรณ รองผู้อำนวยการ ศอ.ปกป.ภาค 3 เปิดเผยว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาค 3 ส่วนหน้าระดมอากาศยานจากทุกหน่วยเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ ทั้งเฮลิคอปเตอร์ MI-17 (กองทัพบก) อากาศยาน BT-67 (กองทัพอากาศ) เฮลิคอปเตอร์จากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เครื่องบิน CASA ของกรมฝนหลวง เพื่อใช้ดัดแปลงสภาพอากาศเพื่อบรรเทาปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก(PM2.5)
โดยในส่วนของเฮลิคอปเตอร์ MI-17 ปฏิบัติภารกิจแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ตำบลศรีวิชัย อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน โดยเติมน้ำจากอ่างเก็บน้ำแม่อิไฮ อำเภอลี้ และอ่างเก็บน้ำบ้านป่าตึง อำเภอทุ่งหัวช้าง
ขณะที่ อากาศยาน BT-67 กองทัพอากาศ เข้าดับไฟในพื้นที่เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าอมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ เนื่องจากเกิดจุดความร้อนจำนวน 15 จุด กระจายอยู่บริเวณพื้นที่ป่านานอน ห้วยไม้หก ห้วยครั่ง ห้วยนา ห้วยหมาบ้า ท้องที่ตำบลม่อนจอง อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่
สำหรับอากาศยาน 2 ลำ H130 และ AS350 จากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมปฏิบัติภารกิจดับไฟในพื้นที่รอยต่อของอำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน และจังหวัดตาก เนื่องจากเกิดไฟป่ามาหลายวัน ส่งผลให้พื้นที่ป่าเสียหายจำนวนมาก
นอกจากนี้ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือตอนบนยังจัดเครื่องบิน CN ,CASA ช่วยดัดแปลงสภาพอากาศเพื่อบรรเทาปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก(PM2.5) จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดแพร่ และจังหวัดพิษณุโลก
ทั้งนี้สถานการณ์จุดความร้อนล่าสุดเช้าวันนี้ตรวจพบจุดความร้อน ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ จำนวน 1,368 จุด สูงสุดที่ จังหวัดลำปาง จำนวน 350 จุด รองลงมาคือ จังหวัดลำพูน จำนวน 185 จุด และ จังหวัดพะเยา จำนวน 161 จุด ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นป่าอนุรักษ์ ป่าสงวนฯ และเขต สปก. ส่งผลให้ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก เกินเกณฑ์มาตรฐาน แล้วจำนวน 15 จังหวัด และเริ่มส่งผลต่อสุขภาพของประชาชนในพื้นที่