ร่างเหยื่อตึก สตง.ถล่ม กลับถึงอุดรแล้ว ผู้ว่าฯ เป็นเจ้าภาพสวดอภิธรรม ก่อนทำพิธีเผาร่างพรุ่งนี้
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 1 เมษายน 2568 ผู้สื่อข่าวเดินทาไปที่วัดไทรทอง บ้านนาเหล่า หมู่ 7 ต.หนองกุงศรี อ.โนนสะอาด จ.อุดรธานี หลังทราบข่าวว่า ศพของนายกิตติพร ตันกันยา อายุ 32 ปี แรงงานช่างประปา เหยื่อตึก สตง.ถล่ม ในศาลาพักศพ พบนางไกสร ตันกันยา อายุ 57 ปี และ น.ส.น้ำผึ้ง ตันกันยา อายุ 23 ปี น้องสาวคนเล็กของผู้เสียชีวิต ที่เดินทางไปรับยืนยันศพของพี่ชายที่ รพ.ตำรวจ กทม. นั่งอยู่เก้าอี้หน้าโลงศพ ด้วยความโศกเศร้าเสียใจที่สูญเสียพี่ชายและลูกชาย ไปแบบกะทันหัน
โดยมีญาติพี่น้อง ชาวบ้าน และผู้นำชุมชน รวมทั้งทหาร ร 13 พัน 1 ค่ายสุนทรธรรมธาดา 20 นาย มาช่วยจัดเตรียมงาน เนื่องจาก นายราชันย์ ซุ้นหั้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี จะเดินทางมาเป็นเจ้าภาพและประธานพิธีสวดอภิธรรมในคืนนี้ ก่อนจะทำพิธีฌาปนกิจช่วงบ่ายในวันพรุ่งนี้
นางไกสร ผู้เป็นแม่ของผู้ตาย ได้จุดธูปบอกดวงวิญญาณลูกชายว่า ไม่ต้องเป็นห่วงแม่ ให้ไปสู่ภพภูมิที่ดี กลับมาบ้านเรานะลูก อยากกินอะไรก็หาให้กินแล้ว หิวน้ำก็เอาน้ำให้กินแล้ว กับข้าวที่ชอบกินก็มีทุกอย่าง เหล้าก็มี ลูกคงดีใจแล้วที่ได้กลับบ้าน พร้อมกับเล่าว่า ศพลูกชายมาถึงบ้านตอนประมาณตี 1 เขาก็ไม่ได้มาเข้าฝันหรือมาบอกอะไรเลย ลูกน่าจะรู้ตัวแล้วว่า ตัวเองจากโลกนี้ไปแล้ว และได้กลับบ้านกลับช่องแล้ว และจะทำพิธีเผาในพรุ่งนี้ และทำพิธีสวดอภิธรรมเพียงคืนเดียว
ด้าน น.ส.น้ำผึ้ง น้องสาว เล่าว่า หนูทำงานก่อสร้างอยู่ที่สระบุรี ตอนที่ตึกถล่มนายจ้างของพี่ชายได้โทรแจ้งมาว่าตึกที่พี่ชายทำงานถล่มแค่นั้น จึงรีบเดินทางไปที่เกิดเหตุ พอไปถึงหน้าไซต์งาน เราก็มีความหวังว่าพี่ชายจะไม่เป็นอะไร และเจ้าหน้าที่ขอตรวจดีเอ็นเอ เพื่อตรวจสอบกับศพที่คาดว่าจะเป็นศพของพี่ชาย พอเจ้าหน้าที่โทรมาแจ้งว่าดีเอ็นเอตรงกัน ก็ให้มารับกลับบ้านได้แค่นั้น
“ตอนแรกเราบอกกับเจ้าหน้าที่ว่า จำเสื้อผ้าที่พี่ชายสวมใส่ทำงานประจำ และพี่ชายมีรอยสักที่ต้นแขนเป็นเส้นสีดำรอบแขน แต่จำไม่ได้ว่าอยู่ที่ต้นแขนข้างไหน พอตรวจดีเอ็นเอตรงกัน เขาก็บอกให้นำศพกลับบ้านเลย ระหว่างรอศพพี่ชาย ตนก็ไม่ได้ฝันเห็นพี่ชายเลย ตอนนี้ก็อยากจะบอกดวงวิญญาณพี่ชายว่าให้ไปดีและไม่ต้องเป็นห่วงอะไรเลย ส่วนพ่อแม่ตนจะดูและเองเพราะที่ผ่านมาก็ไม่ได้ปล่อยให้พ่อกับแม่ยุ่งยากคนอื่นอยู่แล้ว”
