วีระเดช ภู่พิสิฐ นายก อบจ.ลำพูน “จะทำงานโปร่งใส ให้บริการรูปแบบใหม่ เข้าถึงได้”
จากการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) วันที่ 1 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา พรรคประชาชนส่งผู้สมัครทั่วประเทศ 18 จังหวัด และสามารถปักธงส้มได้ในพื้นที่ จ.ลำพูน ที่ประชาชนไว้วางใจ อบจ.ลำพูน จากภารกิจต้องดูแลพื้นที่จังหวัดลำพูนทุกด้านบนภาระและความหวังของการเปลี่ยนแปลงของจังหวัดลำพูน ที่ประชาชนไว้วางใจให้โอกาส “วีระเดช ภู่พิสิฐ” เข้ามานั่งบริหารงาน อบจ.ลำพูน โดยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รับรองผลการเลือกตั้ง เปิดทางให้นายกวีระเดชเข้าทำงานตามวิสัยทัศน์ และนโยบายการทำงานที่หาเสียงกับประชาชนชาวลำพูน
นายกวีระเดช ปัจจุบัน อายุ 37 ปี จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาจากโรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย จ.เชียงใหม่ ระดับปริญญาตรี คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มีประสบการณ์ทำงาน เป็นกรรมการบริษัท พิสิฐอุตสาหกรรม จำกัด ก่อนเข้าร่วมทำงานการเมืองกับพรรคอนาคตใหม่ ในปี 2561 เป็นแกนนำขับเคลื่อนการเมืองพรรคในพื้นที่จังหวัดลำพูน ก่อนผันตัวเองมาอยู่เบื้องหน้าโดยลงสมัครนายก อบจ.และคว้าชัยชนะจากการเลือกตั้งครั้งแรก โดยมีเสียงค่อนสภาหลังลูกทีมคว้าเก้าอี้ได้ถึง 15 เขตจาก 24 เขต ส่วนใหญ่ ส.อบจ.ลูกหม้อที่ผ่านการคัดสรรคนมีฝีมือ และเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีอุดมการณ์ ทำงานบุกเบิกในพื้นที่มาตั้งแต่ยุคแรกๆ ทั้งลุยหาเสียงมาด้วยกัน
นายกวีระเดชเปิดแถลงนโยบายการบริหารต่อที่ประชุมสภา อบจ.ลำพูน มีทั้ง 8 ด้าน คือ ด้านการศึกษา ซึ่งการศึกษาเป็นพื้นฐานสำคัญของการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในจังหวัดลำพูน จึงมีความจำเป็นต้องพัฒนาการศึกษาให้มีความเสมอภาคและเท่าเทียม ให้กับนักเรียน เยาวชน และประชาชนของจังหวัดลำพูนเพื่อตอบสนองกับการเปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจและสังคม สอดคล้องกับตลาดแรงงาน, ด้านความโปร่งใส การมีส่วนร่วมของประชาชน และการบริหารงานที่มีประสิทธิภาพ เพื่อทำให้การทำงานของ อบจ.ลำพูน ซึ่งยึดโยงกับประชาชน โดยยึดหลักธรรมาภิบาล เกิดประสิทธิภาพในการทำงาน และตอบสนองในการแก้ไขปัญหาให้ประชาชนได้อย่างแท้จริง อีกทั้งเกิดประสิทธิภาพในการบริหารองค์กร, ด้านสาธารณสุข และการดูแลกลุ่มเปราะบาง โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบบริการสุขภาพให้ครอบคลุม ด้านส่งเสริมสุขภาพ การป้องกันและควบคุมโรคติดต่อและโรคไม่ติดต่อ การรักษาพยาบาล การฟื้นฟูสมรรถภาพ และคุ้มครองผู้บริโภคด้านสาธารณสุข ให้ประชาชนทุกคนได้เข้าถึงการบริการอย่างทั่วถึง เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต และลดความเหลื่อมล้ำของระบบบริการสุขภาพ
นโยบายด้านการเกษตร ซึ่งประชาชนในจังหวัดลำพูนส่วนใหญ่เป็นเกษตรกร จึงจำเป็นส่งเสริมเกษตรกรรมในจังหวัดลำพูนให้ยั่งยืน ปลอดภัย และแข่งขันได้ในตลาด เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกร และสร้างความมั่นคงทางอาหารให้กับประชาชน, ด้านการท่องเที่ยวเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ ให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวที่นำรายได้มาสู่ชุมชน เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของจังหวัดลำพูน, ด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และขนส่งสาธารณะ ระบบขนส่งสาธารณะ และเส้นทางคมนาคม จะส่งเสริมขนส่งสาธารณะ และเส้นทางคมนาคม ที่สะดวก ปลอดภัย เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตของประชาชน ลดปัญหาจราจร และมลภาวะ อีกทั้งเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจในจังหวัด, ด้านพัฒนาการกีฬา ด้วยการกีฬาและการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพของประชาชนทุกกลุ่มวัย เป็นเครื่องมือสร้างความสามัคคี สร้างโอกาสทางอาชีพ และเป็นรากฐานในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน และสุดท้าย ด้านการลดผลกระทบจากภัยพิบัติ การป้องกันภัยพิบัติ คือ การป้องกันและบรรเทาภัยอันเป็นผลกระทบต่อชีวิตของประชาชน ลดความสูญเสียของงบประมาณที่ต้องใช้ในการฟื้นฟูหลังเกิดความเสียหาย
เพื่อให้การขับเคลื่อนนโยบายมีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล เป็นไปตามหลักบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี ซึ่งคำนึงถึงการมีส่วนร่วมของประชาชน จึงให้มีคณะกรรมการยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนและพัฒนางาน อบจ.ลำพูน โดยแต่งตั้งจากภาคประชาชน และผู้ทรงคุณวุฒิ หรือผู้มีความรู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ ร่วมเป็นคณะกรรมการด้วย เพื่อเป็นกลไกการทำงานร่วมกันของคณะผู้บริหารและข้าราชการใน อบจ. ทั้งนี้นโยบายทั้ง 8 ด้านวางอยู่บนพื้นฐานของข้อมูลและปฏิบัติได้จริงตามภารกิจของ อบจ. เป็นนโยบายที่กำหนดขึ้นโดยคำนึงถึงปัญหา ความต้องการ และศักยภาพของพื้นที่ โดยผมและคณะผู้บริหารมุ่งมั่น ตั้งใจ ผลักดันให้นโยบายให้สัมฤทธิผลโดยเร็ว เพื่อพัฒนาจังหวัดลำพูนให้เจริญก้าวหน้า จะบริหารงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต มีประสิทธิภาพ เป็นประชาธิปไตย เปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมคิด ร่วมสร้าง ร่วมตรวจสอบการทำงานของ อบจ.และคำนึงถึงประโยชน์สุขของประชาชนและชุมชนเป็นที่ตั้ง
“เส้นทางการเมืองก่อนมาถึงตำแหน่งนี้ ยอมรับว่าจุดนี้ไม่มีใครคิดว่าจะมาถึง ที่บ้านผมเป็นครอบครัวนักการเมือง เป็นจุดเริ่มต้น คือ มีต้นทุนชีวิตจากการเห็นคุณพ่อเล่นการเมืองเป็นนายก อบจ. เป็นประธานสภา ผมคุ้นเคย ได้ไปที่ทำงานพ่อที่ อบจ.บ่อยๆ เมื่อท่านมีอุบัติเหตุทางการเมืองก็เริ่มเบื่อไปทำธุรกิจของครอบครัว มันเหมือนโดนพายุพัดกระหน่ำเข้ามา ตรงกับช่วงที่ผมเรียนชั้นมัธยมศึกษา กระทั่งเรียนจบปริญญาตรี ผมเริ่มเข้าสู่มาทำการเมืองด้วยตนเอง เริ่มตั้งแต่ปี 2561 จากความสนใจแนวคิดของพรรคอนาคตใหม่ เพราะชอบนโยบาย จึงมาช่วยงานทั้งเบื้องหน้าเบื้องหลัง สมัยแรกพรรคอนาคตใหม่ไม่ได้ ส.ส.ที่ลำพูน แต่ผมผ่านการช่วยผู้สมัครเลือกตั้งมาแล้ว 5 คน สุดท้ายตอนนี้ จ.ลำพูนมี ส.ส. 1 คน เขต 1 ส่วนสนาม อบจ.เดิมอยากให้พี่ชายลงสนาม อบจ.ก่อน แต่ด้วยเงื่อนไขหลายอย่าง สุดท้ายผมต้องตัดสินใจลงสมัครเอง ด้วยนิสัยที่ชอบทำเอง ลุยเอง ลงหาเสียงเอง ได้พิสูจน์ตัวเองไปในตัวโดยไม่รู้ว่าจะชนะหรือแพ้ เมื่อพรรคเรามีต้นทุนน้อยกว่าคู่แข่ง จึงต้องขยันทำให้มากกว่าเดินลงพื้นที่พบประชาชนให้มากในทุกพื้นที่ทำน้อยแต่ให้ได้ผลมากได้ใจประชาชน
กระทั่งได้รับการเลือกตั้ง เป็นคนเดียวในพรรคประชาชนที่ประสบความสำเร็จชนะการเลือกตั้ง เป็นนายก อบจ.หนึ่งเดียวในประเทศ หลังรับรองผลการเลือกตั้งแล้ว สิ่งแรกที่อยากทำ คือ เริ่มด้วยการเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กรภายในสำนักงานก่อน แล้วการบริหาร การติดตามโครงการต่างๆ ให้เดินหน้าต่อไป เช่น โครงการก่อสร้างสนามกีฬาและทำอัฒจันทร์ให้เสร็จสมบูรณ์ ทำสนามกีฬาให้ดีให้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจให้เด็กๆ ให้ประชาชน เยาวชนมาใช้เป็นสถานที่ออกกำลังกายพักผ่อน ทันสมัยสามารถดึงดูดใจให้คนมาออกกำลังกายกันมากขึ้น
มองลำพูนแล้ว สิ่งที่หนักใจที่สุด คือ การมีแนวการบริหารที่ไม่เหมือนคนอื่นๆ ที่ผ่านมา ยึดตามระเบียบในการบริหาร ซึ่งผมมารับตำแหน่งเดือนกุมภาพันธ์ 2568 แต่งบประมาณเคาะกันตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่ผ่านมา จึงได้แต่ดู ไม่ได้มีงบใหม่สนองนโยบายในช่วงปีนี้ ได้แต่ทำตามอำนาจหน้าที่ไปก่อน อันไหนที่ยังไม่ได้ทำ และไม่เกิดประโยชน์ก็พิจารณาตัดทอนได้ เอางบไปทำอะไรก็ต้องมีประโยชน์คุ้มค่า เช่น งบไฟป่า อยากช่วยชาวบ้านที่เดือดร้อนขาดอุปกรณ์ แต่ อบจ.ไม่มีงบในแผน มีเครื่องเป่าควันเพียง 1 เครื่อง ไม่สามารถจัดหาหรือมีงบประมาณมาจัดซื้อเครื่องมือได้ทัน ต่างจาก อบจ.เชียงใหม่ เขาให้ความสำคัญเรื่องนี้ มีรถตรวจการณ์ มีโดรนช่วยเหลือดับไฟป่า จะเห็นว่า 2 จังหวัดใกล้กัน มีปัญหาใกล้เคียงกัน แต่มีการเตรียมแก้ปัญหาที่ต่างกัน”
นายกวีระเดชกล่าวอีกว่า มองโจทย์การพัฒนาเมืองลำพูน คือ ทำให้คนมาเที่ยวลำพูน ซึ่งควรมีข้อมูลให้นักท่องเที่ยว มาลำพูนแล้วจะได้อะไร มาแล้วได้รู้วัฒนธรรม รับประทานอาหาร ควรมีระบบขนส่งสาธารณะจากเชียงใหม่มาลำพูน มีรถ มีสถานีขนส่ง รับส่งนักท่องเที่ยวจากสนามบินมาลำพูน จากลำพูนไปสนามบิน เบื้องต้นได้ประสานขนส่งจังหวัดอนุญาตให้ใช้เส้นทางเดินรถ พร้อมขับเคลื่อนให้ดำเนินการได้ ส่วนมุมมองด้านเศรษฐกิจ ซึ่งคนลำพูนมีอาชีพหลากหลายอาชีพ ทั้งเกษตรกรรม อุตสาหกรรม ซึ่งประชาชนควรมีช่องทางจำหน่ายสินค้ามากขึ้น แต่ปัจจุบันสถานที่จำหน่ายสินค้า ตลาดนัด หรือกาดนัด มีแต่คนต่างถิ่น ทำให้คนพื้นที่เข้าถึงแหล่งค้าขายได้น้อย จึงอยากให้มีจุดจำหน่ายสินค้าให้คนลำพูนโดยตรง จะลดปัญหาปัญหาเศรษฐกิจได้ นอกจากนี้ อยากให้มีถนนคนเดินอีกสายเพื่อผู้ค้าชาวลำพูน จะช่วยเพิ่มช่องทางค้าขาย ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัดอีกทางหนึ่ง
“ส่วนด้านการศึกษา เบื้องต้น เน้นโรงเรียนในสังกัด อบจ. 4 แห่ง โดยจะปรับปรุงพัฒนาหลักสูตรให้ทันสมัย มีคุณภาพทั้งมีงบประมาณสนับสนุนอุปกรณ์การเรียนการสอน อาคารสถานที่พร้อม ปรับปรุงการใช้งบประมาณที่ไม่เหมาะสมเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพแก่นักเรียนมากขึ้น ขอให้คนลำพูนติดตามผลงานของทีมผู้บริหาร อบจ.ลำพูนชุดนี้ จะทำงานอย่างโปร่งใส ให้บริการในรูปแบบใหม่ เข้าถึงได้“