รวบแอดมินเพจกลุ่ม ‘นกกรงหัวจุก กำแพงเพชร’ ท้าทายกฎหมายค้าสัตว์ป่าคุ้มครอง

ตำรวจ ปทส. รวบแอดมินเพจกลุ่ม “นกกรงหัวจุก กำแพงเพชร” กลางปั๊มใน อ.ชิรบารมี จ.พิจิตร ท้าทายกฎหมาย ค้าสัตว์ป่าคุ้มครองผ่านเฟซบุ๊ก ได้ผู้ต้องหา 2 คน อ้างเอกสารปลอม มั่นใจ “มีใบ ยังไงก็รอด” สุดท้ายไปไม่รอด ตำรวจบุกจับพร้อมของกลาง

เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2568 ตำรวจ ปทส. ตรวจสอบพบเพจเฟซบุ๊กชื่อ “นกกรงหัวจุก กำแพงเพชร” เปิดขาย “นกปรอดหัวโขน” สัตว์ป่าคุ้มครองอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย โดย พ.ต.อ.ณัทกฤช น้อยคำปัน ผกก.4 บก.ปทส. ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.หญิงภิ์ษัชกร เลิศวิลัย สารวัตรสอบสวน กก.4 บก.ปทส. พร้อมชุดสืบสวนปราบปรามจังหวัดพิจิตร ได้ติดตามสืบพฤติกรรมต้องสงสัย ในการโพสต์ขายนกปรอดหัวโขนผ่านเฟซบุ๊ก ชื่อ “สรวัชญ์ “ พร้อมข้อความจูงใจอย่างมั่นอกมั่นใจ เช่น “ลูกป้อนสายป่าเดิม เปิดรับออเดอร์ ไม่ต้องกลัวโดนโกง ของแท้แน่นอน ชนมืออย่างเดียว!” ซึ่งเจ้าหน้าที่จึงได้วางแผนล่อซื้อทันที โดยส่งสายลับได้ติดต่อผ่านแชทเฟซบุ๊กเพื่อนัดส่งมอบนกจำนวน 10 ตัว ในราคา 6,400 บาท ที่บริเวณปั๊มน้ำมันแห้วหนึ่ง ที่ต.บ้านนา อ.วชิรบารมี จ.พิจิตร

และเมื่อถึงเวลานัดหมาย ปรากฏว่ารถยนต์เก๋งสีเขียวขับเข้ามาจอด ผู้ต้องหาทั้งสองลงมาจากรถพร้อมกรงนกในมือ ส่งมอบให้สายลับตามแผนส่งมอบพร้อมรับเงิน เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าจับกุม และผู้ต้องหาพยายามอ้างว่า “มีใบอนุญาตถูกต้อง” และยังกล่าวอย่างมั่นใจว่า “ถ้าเจอด่านก็ไม่กลัว ยังไงก็มีเอกสารติดตัวอยู่แล้ว” แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบรายละเอียด กลับพบว่าใบอนุญาตดังกล่าว เป็นของปลอม และที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือ อายุและเครื่องหมายนก ที่ระบุไว้ในเอกสารไม่ตรงกับของกลาง ซึ่งเป็นลูกนกอายุเพียงไม่กี่เดือน ต่างจากนกในบัญชีใบอนุญาตที่อายุ 1–7 ปีทั้งหมด จึงได้จับกุม และตรวจยึดของกลางในการจับกุมครั้งนี้ประกอบด้วย นกปรอดหัวโขน 10 ตัว (สัตว์ป่าคุ้มครองตามกฎหมาย, กรงนก 1 ใบ, โทรศัพท์มือถือ พร้อมแชตซื้อขาย, รถยนต์ TOYOTA COROLLA สีเขียว, ใบอนุญาตครอบครองสัตว์ป่าปลอม และ ธนบัตรล่อซื้อที่ลงบันทึกประจำวันไว้

ADVERTISMENT

จากการสอบสวนผู้ต้องหาสองราย คือนายก. (นามสมมติ) อายุ 37 ปี และ นางสาวป. (นามสมมติ) อายุ 35 ปี ทั้งสองไม่ใช่แค่ผู้ค้ารายย่อย แต่เป็น แอดมินกลุ่มเฟซบุ๊กชื่อ “นกกรงหัวจุก กำแพงเพชร” ซึ่งมีผู้ติดตามจำนวนมาก และถูกใช้เป็นแหล่งนัดซื้อขายสัตว์ป่าคุ้มครองแบบโจ่งแจ้ง โดยไม่คำนึงถึงกฎหมายหรือผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมแต่อย่างใด โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าได้นำลูกนกมาจาก จ.เชียงใหม่ และเคยซื้อต่อจากบุคคลใน จ.นครสวรรค์ ซึ่งเคยถูกดำเนินคดีไปก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่จึงพิจารณาเห็นว่า ทั้งสองมีพฤติการณ์ร่วมกันค้าและมีสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และใช้ช่องทางออนไลน์เป็นเครื่องมือในการกระทำความผิด จึงแจ้งข้อกล่าวหาตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 มาตรา 17 ประกอบมาตรา 89 และมาตรา 29 ประกอบมาตรา 92 ฐาน “ร่วมกันมีไว้ในครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครอง และค้าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สภ.วชิรบารมี จ.พิจิตร ดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมขยายผลจับกุมขบวนการนี้ต่อไป

ADVERTISMENT

ด้าน พ.ต.ท.หญิงภิ์ษัชกร เลิศวิลัย สารวัตรสอบสวน กก.4 บก.ปทส. กล่าวว่า สำหรับกรณีนี้คือบทเรียนสำคัญที่ฝากถึงสังคมไทยทุกภาคส่วนว่าสัตว์ป่าคุ้มครองไม่ใช่ของสะสมหรือของซื้อขายในตลาดลับ หากคุณซื้อมาครอบครองโดยไม่รู้ข้อกฎหมาย ก็อาจกลายเป็นผู้ร่วมกระทำผิดโดยไม่รู้ตัว การพรากลูกนกมาจากอกพ่อแม่ของเขาก็อาจนำมาสู่การที่คนจะต้องเข้าไปรับผลกรรมในคุกก็เป็นได้ และจงอย่าลืมว่า โลกออนไลน์ไม่ใช่พื้นที่ปลอดภัยสำหรับอาชญากรรม ตำรวจมีเทคนิคในการสืบสวนอย่างล้ำลึก และพร้อมเข้าถึงทุกแพลตฟอร์ม โดยเฉพาะตำรวจสอบสวนกลาง ดังนั้น อย่าติดที่จะกระทำความผิด หากพบการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แจ้งสายด่วน บก.ปทส. 1136

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image