ญาติพี่น้องครอบครัวตึก สตง.ถล่ม ยังรอคอย 3 ชีวิต แม่สุดสะเทือนใจดูข่าวไม่ได้

ญาติพี่น้องครอบครัวตึก สตง.ถล่ม ยังรอคอย 3 ชีวิต แม่สุดสะเทือนใจดูข่าวไม่ได้

 

เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 4 หมู่ 2 บ้านภูวงศ์ ต.สุวรรณคูหา อ.สุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภู ซึ่งเป็นบ้านของนางบุญสวน พลเดช อายุ 70 ปี ผู้เป็นแม่ วันนี้ก็ยังได้แต่รอข่าวคราวของลูกสาว น.ส.จินตหลา หรือนาง พลเดช นายอมรเทพ หรือน้องณัฐ พลเดช หลานชาย และนายวิรัลพัชร จัตุเรศ หรือน้อย ลูกเขย ที่สูญหายไปตั้งแต่วันเกิดเหตุตึกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินถล่ม ในบ่ายวันที่ 28 มีนาคมนั้น และยังมี นายธีรเทพ ฟ้าฝน อายุ 19 ปี ที่เป็นหลานชายญาติๆ ของตนเองอีกคนหนึ่ง นามสกุลเดียวกันกับตนก่อนแต่งงาน โดยได้มี นายทองอินทร์ พลเดช ลูกชายคนที่ 3 มาอยู่เป็นเพื่อน พร้อมด้วยญาติพี่น้องบ้านใกล้เคียง และยังมีลูกของลูกสาวและลูกเขยอีก 2 คน คือ น้องหญิง อายุ 9 ขวบ และน้องไนท์ อายุ 3 ขวบ ที่อยู่เป็นเพื่อน ทุกคนต่างภาวนาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยปกปักรักษา ยังรอคอยด้วยความหวัง รอปาฏิหาริย์ให้รอดชีวิตกลับมาบอกเล่าเรื่องราวให้ฟัง

นางบุญสวน พลเดช เล่าว่า ตนเองมีลูกทั้งหมด 5 คน เป็นชาย 4 คน และลูกสาวคนสุดท้อง น.ส.จินตหลา หรือนาง เป็นเสมือนเสาหลักของครอบครัวเพราะทำงานหาเงินมาเลี้ยงดูครอบครัว จะไปทำงานตลอด เวลามีเทศกาลครั้งหนึ่งก็จะเดินทางกลับมาบ้าน เป็นคนที่รักแม่มาก รู้ว่าแม่ชอบอะไรก็จะหามาให้กินตลอด รู้ว่าแม่ชอบกินของป่า ไข่มดแดง รังผึ้ง น้ำผึ้ง เวลามาก็จะหามาให้ ส่วนลูกชายก็ไปแต่งงาน ทำงานอยู่ต่างจังหวัดและบวชเป็นพระ จึงมีลูกสาวที่อยู่ด้วย ตอนนี้ก็มีลูกของลูกสาว คือ น้องหญิง อายุ 9 ขวบ กับน้องไนท์ อายุ 3 ขวบ หลานชาย ที่ลูกสาวให้ตนเป็นคนเลี้ยงและอยู่ที่บ้านด้วย

ADVERTISMENT

ในวันก่อนเกิดเหตุได้โทรศัพท์มาพูดคุยกันในช่วงพักเที่ยง ถามว่า แม่กินข้าวกับอะไร เป็นการคุยครั้งสุดท้ายที่ได้ติดต่อกัน ตอนนี้ก็ได้แต่รอข่าว แต่ก็ไม่กล้าที่จะดูข่าวของตึกถล่ม ได้ยินหรือเห็นภาพรู้สึกจะเป็นลมและลูกชาย นายทองอินทร์ พลเดช ลูกคนที่ 3 ที่หลังเกิดเหตุรู้ว่าครอบครัวน้องสาวได้สูญหายไปกับตึกถล่ม ก็ได้เดินทางจากจังหวัดสุโขทัย มาอยู่เป็นเพื่อน พร้อมทั้งไม่ให้แม่คอยรับข่าวสารกลัวความไม่สบายใจ ทุกวันนี้ก็ได้แต่กราบพระขอพรภาวนาขอให้ปาฏิหาริย์เกิดขึ้นกับครอบครัวทั้ง 3 คนด้วย

ส่วนทางด้าน นายทองอินทร์ พลเดช ลูกชายคนที่ 3 เล่าว่า วันก่อนเกิดเหตุในช่วงตอนเย็นได้โทรศัพท์คุยกันกับน้องสาวอยู่ว่า ตอนนี้ทำงานอยู่ที่ไหน ซึ่งน้องสาวได้บอกว่า ทำงานอยู่ตึกแถวจตุจักร และวันถัดมาตนเองเห็นข่าวตึกถล่มแถวจตุจักร จึงรีบโทรศัพท์หาน้องสาว เป็นร้อยสายก็ไม่ติด โทรศัพท์มาหาหลานสาวก็บอกว่าโทรศัพท์หาแม่อย่างไรก็ไม่ได้ จึงคิดว่าน้องหายไปกับตึกถล่ม เลยรีบเดินทางจากอำเภอทุ่งเสลี่ยม จ.สุโขทัย กลับมาหาแม่ที่บ้าน เพราะว่าพ่อก็เสียแล้ว ไม่มีใครอยู่เป็นเพื่อน กลัวแม่คิดมาก และก็จะอยู่ที่นี่กับแม่ยังไม่รู้ว่าจะเดินทางกลับในช่วงไหน คงจะอยู่ดูแลแม่กับหลานไปก่อน

ADVERTISMENT

ส่วน นางมุก จ่ายนอก ซึ่งเป็นอา มีบ้านอยู่ใกล้กัน ก็บอกว่าได้แต่ถามข่าว เป็นห่วงหลานๆ เช่นกัน อยากให้มีปาฏิหาริย์ หรือว่าอย่างไรก็ขอให้พบให้ได้กลับคืนมา ไม่ว่าจะมาในสภาพอย่างไรก็ขอให้ได้กลับมา

นอกจากนั้น ผู้สื่อข่าวยังรายงานว่า หลังจากที่เกิดเหตุและทางหน่วยงานราชการในพื้นที่และระดับจังหวัดที่ทราบข่าวว่า มีบุคคลในครอบครัวพลเดชสูญหายไปกับเหตุการณ์ตึกถล่ม ก็ได้มีหลายหน่วยงานเดินทางมาสอบถามข้อมูล ให้กำลังใจกับครอบครัว โดยก่อนหน้านี้ 2 วัน นางบุญสวน พลเดช พร้อมหลานสาวก็ได้เดินทางไปกรุงเทพมหานคร กับลูกชาย และทางเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ได้ทำการเก็บดีเอ็นเอ ของตนเองและของหลานสาวไว้แล้ว ตนเองไม่อยากอยู่รู้สึกไม่สบายใจ จึงขอกลับมาบ้าน ได้ให้น้องชายของลูกเขย ที่อยู่กรุงเทพมหานคร คอยติดตามและส่งข่าวให้ทางบ้านได้ทราบ ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่มีความคืบหน้ามาให้ได้รับรู้

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image