ชาวเมืองภูเก็ต-ผู้ว่าฯ ชื่นชมวงปล่อยแก่ภูเก็ต จัดคอนเสิร์ตนำรายได้สมทบทุนสร้างศูนย์รังสีรักษา รพ.วชิระฯ และบริจาคบ้านพักคนชรา
นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดงาน “คอนเสิร์ตวงปล่อยแก่ จังหวัดภูเก็ต ครั้งที่ 1” ในโครงการดนตรีพลังบวก ภาคส่งเสริมต่อยอดสู่วัยเกษียณอย่างมีพลัง ของมูลนิธิอาจารย์สุกรี เจริญสุข สนับสนุนโดยสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.) และมูลนิธิตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อเร็วๆนี้ ที่ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมรอยัลภูเก็ตซิตี้ โดยผู้ว่าฯภูเก็ต ได้กล่าวชื่นชมวงปล่อยแก่ภูเก็ตที่จัดคอนเสิร์ตครั้งนี้ขึ้น ด้วยการนำรายได้ส่วนหนึ่งสมทบทุนสร้างศูนย์รังสีรักษาครบวงจร โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต และบริจาคให้ศูนย์ส่งเสริมการจัดสวัสดิการผู้สูงอายุจังหวัดภูเก็ต
สำหรับบรรยากาศในงานผู้ร่วมชมคอนเสิร์ตแน่นเต็มห้อง ประกอบไปด้วยหัวหน้าหน่วยราชการและภาคเอกชนในจังหวัดภูเก็ตจำนวนมาก อาทินายเรวัต อารีรอบ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต นพ.วีระศักดิ์ หล่อทองคำ ผู้อำนวยการโรงพยาบาล(รพ.)วชิระภูเก็ต นายประมุขพิสิฐ อัจฉริยะฉาย นักธุรกิจและประธานคณะกรรมการพัฒนารพ.วชิระภูเก็ต เหล่านักธุรกิจและประชาชนทั่วไป พร้อมกันนั้นอาจารย์สุชาติ วงษ์ทอง ศิลปินนานาชาติ มาวาดภาพเมืองภูเก็ต เพื่อประมูลภาพนำรายได้มอบให้กับวงปล่อยแก่จังหวัดภูเก็ต โดยนายประมุขพิสิฐชนะการประมูลด้วยวงเงิน 2.1 แสนบาท
รศ.ดร.สุกรี เจริญสุข ประธานมูลนิธิอาจารย์สุกรี เจริญสุข กล่าวรายงานว่า สาเหตุที่มาตั้งวงปล่อยแก่เพราะบ้านเราเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยเต็มรูปแบบแล้ว ปัจจุบันมีมากถึง 16 ล้านคน และอีก2 ปี จะมีถึง 20 ล้านคน โดยเริ่มทำวงปล่อยแก่บ้านคา จ.ราชบุรี เมื่อปี 2562 ได้รับทุนสนับสนุนจากมูลนิธิตลาดหลักทรัพย์และวช. ปัจจุบันมีวงปล่อยแก่ 13 วง กระจายทั่วประเทศ มีคนแก่มาร่วม 1,504 คน ในส่วนของวงปล่อยแก่ภูเก็ต มีสมาชิกมากถึง 272 คน
“ผมอยากให้คนแก่ได้ใช้ศักยภาพที่มีอยู่ เพื่อให้ช่วยเหลือตัวเอง และช่วยคนอื่นได้ อีกทั้งการที่คนแก่มาร้องเพลงทำให้สุขภาพจิตสุขภาพกายดี การที่วงปล่อยแก่ภูเก็ตทำคอนเสิร์ตเพื่อหารายได้ช่วยโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เป็นเรื่องที่ผมชื่นชมมาก ไม่คิดว่าจะมาไกลถึงเพียงนี้ เพราะแค่รวมตัวมาร้องเพลงประสานเสียงก็ดีแล้ว แต่วันนี้ถึงขั้นช่วยเหลือสังคม เป็นสิ่งที่น่ายกย่องมาก”
นายประมุขพิสิฐ เปิดเผยว่า วันนี้มีดีใจและภูมิใจมากที่ได้มาร่วมคอนเสิร์ตวงปล่อยแก่ ทำให้ได้เห็นความศักยภาพของผู้สูงอายุที่ออกมาร้องเพลงเป็นสิบๆ และสามารถจำเนื้อได้ ขณะที่หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส ดวงตาเปล่งแสงประกายมีความสุข จึงอยากเชิญชวนผู้สูงอายุทั้งหลาย อย่าเก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน มีโอกาสออกมาทำกิจกรรมอะไรก็ได้ ไม่เช่นนั้นอาจเป็นโรคซึมเศร้า
“วันนี้คนหลายร้อยคนมาชมคอนเสิร์ต ได้เห็นถึงความสามารถของผู้สูงอายุที่ออกมาร้องเพลงแล้วก็เต้นรำกันสนุกสนานมาก ผมเองรู้สึกภาคภูมิใจที่เป็นส่วนหนึ่ง และมีโอกาสมาร้องเพลงพระราชนิพนธ์ ต้องขอบคุณโครงการดนตรีพลังบวกของมูลนิธิอาจารย์สุกรี เจริญสุข ซึ่งมีประโยชน์ต่อสังคมผู้สูงอายุมาก” นายประมุขพิสิฐกล่าว
ด้าน ผศ.วีระศักดิ์ อักษรถึง คณบดีคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎสงขลา ในฐานะผู้อำนวยการการเพลงและผู้ฝึกซ้อมให้กับวงปล่อยแก่ภูเก็ต กล่าวว่า ถ้าดูตามเสียงปรบมือและรอยยิ้มแห่งความสุขของผู้ชมคอนเสิร์ตประเมินได้ในเบื้องต้นได้ว่าคอนเสิร์ตครั้งนี้ประสบความสำเร็จ ซึ่งความสำเร็จนี้เท่ากับสองเท่า คือหนึ่ง คนที่อยู่ในวงได้ใช้ศักยภาพเต็มที่ ที่มีมากกว่าการร้องเพลง เพราะต้องติดต่อประสานงานต่างๆ เพื่อจำหน่ายบัตร เรื่องที่สองสร้างความสุขให้กับผู้ชม ที่สำคัญยังทำประโยชน์ให้กับสาธารณะได้อีก
“สมาชิกวงปล่อยแก่ภูเก็ตมีศักยภาพ มีพลังงานเยอะ และก็มีความกระตือรือร้นสูง จึงวางเป้าหมายเป็นระยะๆ เพื่อทำให้มีการขับเคลื่อนไปสู่จุดหมาย และเพื่อความท้าทายไปเรื่อยๆ ประกอบกับวาระแห่งชาติของภูเก็ตคือสร้างอาคารรังสีรักษาของโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต จึงเป็นเป้าหมายในการทำคอนเสิร์ตเพื่อระดมทุนแล้วนำไปมอบให้โรงพยาบาล ซึ่งเป็นเรื่องที่ใครๆก็อยากสนับสนุน ถือว่าวงปล่อยแก่ภูเก็ตได้ทำประโยชน์หลายๆ อย่างในเวลาเดียวกัน” ผศ.วีระศักดิ์กล่าว
นางถาวร เกียรติถาวรวงศ์ วัย 74 ปี ผู้จัดการวงปล่อยแก่ภูเก็ต กล่าวว่า วงเพิ่งก่อตั้งเมื่อปี 2566 ขณะนี้มีสมาชิก 272 คน ในช่วงดำเนินการมาระยะเวลา 1 ปี 4 เดือน มีการพัฒนาเยอะมาก ทั้งในด้านการขับร้องเพลง และการปรับตัวอยู่ร่วมกันของสมาชิกที่มาจากต่างสาขาวิชาชีพ ล้วนแล้วแต่เป็นผู้เกษียณอายุราชการ โดยมีผู้หญิงเยอะกว่าผู้ชายประมาณ 3 เท่า การจัดงานคอนเสิร์ตการกุศลครั้งนี้เพื่อสมทบทุนสร้างอาคารรังสีรักษา โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต โดยมอบให้ 5 แสนบาท และมอบให้ศูนย์ส่งเสริมการพัฒนาการจัดสวัสดิการผู้สูงอายุ จ.ภูเก็ต ที่เรียกว่าบ้านพักคนชรา 1 แสนบาท ที่เหลือไว้ใช้จ่ายในวง
“ต้องขอขอบคุณมูลนิธิอาจารย์สุกรี เจริญสุข มูลนิธิตลาดหลักทรัพย์และวช. ที่ทำให้เกิดโครงการดีๆแบบนี้ การมาร่วมวงปล่อยแก่ทำให้ได้เพื่อนและได้ความสุข ได้รู้จักกันแบบลึกซึ้งและเชื่อมโยงไปสู่ความเอื้ออาทรต่อกัน ซึ่งตามวัตถุประสงค์ของโครงการดนตรีพลังบวก คือเพื่อพัฒนาสุขภาพกาย-จิตของผู้สูงอายุ เป้าหมายที่สองคือ สามารถทำประโยชน์ให้กับสังคมได้ ดังนั้นในการจัดคอนเสิร์ตครั้งนี้เราได้ทำประโยชน์เพื่อสังคมถือเป็นงานที่ใหญ่ที่สุด” นางถาวรกล่าว
น.ส.วารุณี สกุลรัตนธารา วัย62 ปี กรรมการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) สมาชิกวงปล่อยแก่ภูเก็ต กล่าวว่า การขับร้องเพลงประสานทำให้ได้ความรู้หลายอย่าง ก่อนหน้านี้เครียดจากการทำงานมากนอนไม่หลับ แต่พอได้มาร้องเพลง มีความรู้สึกผ่อนคลาย ได้ทำในสิ่งที่ชอบ ส่งผลนอนหลับสนิทขึ้น ไม่ตื่นขึ้นมาตี 2 ตี 3 แล้วปวดหัวเหมือนเมื่อก่อน
“ประโยชน์ของการมาร่วมวงปล่อยแก่มีหลายอย่าง ได้ฝึกลมหายใจ การออกเสียง การลากคำ ทำให้ได้พัฒนาเสียงร้อง เพื่อนยังบอกเลยว่าร้องดีกว่าเดิมเยอะเลย สิ่งสำคัญที่สุดมีความสุข ได้เจอเพื่อนหลากหลาย มีสังคมที่กว้างขึ้น และนอกจากทำเพื่อตัวเราแล้ว ยังได้แบ่งปันความสุขให้กับผู้อื่นด้วย อย่างเช่น นำรายได้ส่วนหนึ่งจากการจัดคอนเสิร์ตให้โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เป็นความภูมิใจมาก ตอนนี้วงปล่อยแก่มีทั่วประเทศ 13 วง คิดว่าน่าจะเพิ่มถ้ามีได้ทุกจังหวัดยิ่งดี”
น.ส.วารุณี กล่าวและว่า ขอขอบคุณทางมูลนิธิอาจารย์สุกรี เจริญสุข เป็นอย่างยิ่ง ที่ทำให้วงปล่อยแก่ภูเก็ตได้มาถึงวันนี้ จึงอยากให้มูลนิธิตลาดหลักทรัพย์ฯและวช. สนับสนุนอย่างต่อเนื่อง
น.ส.วรรณประภา สุขสมบูรณ์ อายุ 66 ปี กล่าวว่า สมาชิกวงปล่อยแก่ภูเก็ตทุกคนรักกันดี มีการแบ่งปันกันทุกเรื่อง มีความเอื้อเฟื้อเอื้ออารีต่อกัน ร้องเพลงด้วยความสุข จากการฝึกซ้อมอย่างหนักจนถึงวันนี้ที่มีการจัดงานคอนเสิร์ตขึ้นด้วยความที่ทุกคนฮึด ถึงแม้อายุจะเยอะ รวมแล้ววงนี้ประมาณสัก 5,000 ปีได้ มีความรู้สึกเหมือนกับว่ากลับมาเป็นเด็กอีกครั้งหนึ่ง สนุกสนาน ลืมโรคภัยไข้เจ็บ มีอยู่คนหนึ่งป่วยจากอุบัติเหตุ แต่พอมาร้องเพลงอาการป่วยก็หายดีวันดีขึ้น
“งานคอนเสิร์ตวงปล่อยแก่ภูเก็ตที่นำเงินรายได้มอบให้กับโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต และบ้านพักคนชราภูเก็ต ประกาศให้สังคมเห็นว่าคนแก่ไม่ธรรมดา คนแก่ก็มีพลังบวก และสามารถส่งพลังบวกไปยังผู้ชมและคนในสังคมได้ด้วย”น.ส.วรรณประภา กล่าว
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามผู้ที่เข้าชมคอนเสิร์ตหลายคน ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าสมาชิกวงปล่อยแก่ภูเก็ตร้องเพลงประสานเสียงได้ไพเราะ และมีพลังมากเพราะร้องถึง 13 เพลง แถมยังมีสมาชิกบางกลุ่มเต้นลีลาศเก่ง ชุดที่สวมก็ออกแบบสวยงาม ที่สำคัญยังนำเงินรายได้มาช่วยชาวภูเก็ตด้วย
