กล้องวงจรปิดจับภาพโจรขโมยเงินในร้านค้ากว่า 20 ครั้ง ได้เงินไปกว่าแสนบาท
เมื่อวันที่ 8 เมษาายน 68 นางติ๋ม อัตวัฒนา อายุ 68 ปี เจ้าของร้านขายของชำแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ที่ หมู่ 2 ต.ดอนคลัง อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี ร้องต่อสื่อมวลชนว่า ได้มีโจรเข้าไปในร้านขโมยของเกือบทุกวัน โดยดูจากกล้องวงจรปิดย้อนหลังไป 30 วัน พบว่าเข้ามาขโมยเงินและสิ่งของทุกวันรวมกว่า 20 ครั้ง ได้เงินไปมากกว่า 1 แสนบาท และยังไม่รวมข้าวของเครื่องใช้ที่เอาไปและยังมีเงินทอนที่ทางหัวขโมยนำธนบัตรใบละ 1,000 บาท ที่ขโมยไปเอามาจ่ายด้วย จึงอยากให้ผู้สื่อข่าวได้ช่วยนำเสนอข่าว เพื่อเป็นอุทาหรณ์และแจ้งเตือนร้านค้าด้วยกัน
นางติ๋ม เจ้าของร้าน เล่าว่า ที่ผ่านมาไม่เคยรู้ว่าเงินหายเลย เพราะไม่ได้นับเงินรู้แต่ว่าขายของแล้วไม่มีกำไร จนมารู้สึกเอะใจเมื่อมีเงินก้อนหายไปกว่า 1 หมื่นบาท จึงคิดว่าหลานชายเป็นคนขโมยเงินไป เพราะในร้านช่วงนั้นอยู่กับหลานชายแค่ 2 คน จึงไปบอกน้องสาวว่าหลานชายขโมยเงินทำให้หลานชายแอบไปนั่งร้องไห้
และล่าสุดเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 7 เม.ย. ที่ผ่านมา สามีของตนมองเข้ามาในร้านและเห็นจากกระจกตู้แช่เย็นว่ามีคนเปิดลิ้นชักเงิน จึงได้ให้หลานชายมาเปิดกล้องวงจรย้อนหลังก็พบว่ามีลูกค้าซึ่งเป็นคนใกล้บ้านรู้จักสนิทสนมกันดี และจะมาซื้อของช่วงเช้าทุกวัน และเมื่อเปิดกล้องดูไปจนถึงวันที่ 7 มี.ค. เพราะกล้องวงจรจะเก็บภาพไว้ประมาณ 1 เดือน ก็พบว่ามาขโมยเงินทุกวัน เว้นแค่ 3 วัน ซึ่งมียอดมากสุดคือ 16,000 บาท เพราะเป็นเงินที่สามีกับหลานนับเก็บไว้ในกระเป๋า จึงทำให้รู้ยอด แต่วันอื่น ๆ นั้นน่าจะวัน 2-3 พันบาท
ช่วงแรก ๆ ก็ท้อเพราะของก็ขายดีแต่ไม่มีกำไรเลย ต้องไปขอยืมเงินลูกมาลงทุนเพิ่มอีก ซึ่งหากเงินไม่หายก็ยังพอจะหมุนได้ จึงอยากเตือนไปยังร้านค้าอื่น ๆ ให้ระวังอย่าไว้ใจคนสนิทเพราะเรื่องเงินไม่เข้าใครออกใคร และอยากจะให้หัวขโมยรายนี้ซึ่งรู้จักและสนิทกันได้นำเงินมาคืนให้ตนเองบ้าง และพอหลังจากทราบว่าหัวขโมยรายนี้เป็นใคร จึงให้ทางลูกเขยแกล้งหลอกล่อไปโรงพัก เพื่อไปแจ้งความเอาผิด
ทางด้าน พ.ต.อ.ภูภณ ทัพเจริญ ผกก.สภ.ดำเนินฯ ให้ข้อมูลว่า ทางผู้เสียหายได้เชิญตัวหัวขโมยมาพบพนักงานสอบสวน โดยทางผู้ต้องหาก็ยอมรับสารภาพทุกอย่าง จึงได้ทำการสอบปากคำอย่างละเอียด พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา ลักทรัพย์ในเคหสถานโดยใช้ยานพาหนะ และจะนัดส่งฟ้องอัยการ ต่อไป