โคราช ชวนคนรุ่นใหม่ร่วมบริจาคโลหิต สำรองรับอุบัติเหตุช่วงเทศกาลสงกรานต์

โคราช ชวนคนรุ่นใหม่ร่วมบริจาคโลหิต สำรองรับอุบัติเหตุช่วงเทศกาลสงกรานต์

เมื่อวันที่ 9 เมษายน ที่ วาไรตี้ฮอลล์ ชั้น 3 เดอะมอลล์ โคราช นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานเปิดโครงการ “M Heart สายโลหิตสายใจ เลือดคนรุ่นใหม่ใส่ใจสังคม” ซึ่งจัดขึ้นภายใต้แนวคิด “เลือดคนรุ่นใหม่ใส่ใจสังคม เพื่อโคราช…ไม่ขาดเลือด” โดยรณรงค์เชิญชวนผู้บริจาคโลหิตหน้าใหม่ให้เข้าร่วมการบริจาคโลหิต เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ขาดแคลนโลหิตในจังหวัดนครราชสีมา และเตรียมพร้อมสำรองโลหิตไว้ช่วยผู้เจ็บป่วยในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ที่จะมีการเดินทางของประชาชนเป็นจำนวนมาก ซึ่งอาจมีอุบัติเหตุหรือความต้องการใช้เลือดสูงกว่าปกติ

โดยนายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า “จังหวัดนครราชสีมา ได้ร่วมกับภาคีเครือข่าวทั้งภาครัฐ-ภาคเอกชน อาทิ เหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา ,ภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 5 สภากาชาดไทย ,โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ,โรงพยาบาลจิตเวชนครราชสีมาราชนครินทร์ , เดอะมอลล์ โคราช และผู้สนับสนุน จัดงาน“MHeart สายโลหิตสายใจ เลือดคนรุ่นใหม่ใส่ใจสังคม“ ขึ้นระหว่างวันที่ 9-10 เมษายน 2568 เวลา 10.00 น.-16.00 น. ที่ วาไรตี้ ฮอลล์ ชั้น 3 เดอะมอลล์โคราช

ซึ่งโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เป็นโรงพยาบาลศูนย์ที่ต้องให้บริการผู้ป่วยใน 4 จังหวัด “นครชัยบุรินทร์” คือ จ.นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และ จ.สุรินทร์ มีอัตราการใช้โลหิตร่วมกันทั้ง 4 จังหวัด เฉลี่ยเดือนละประมาณ 4,500 ยูนิต จึงจำเป็นที่ทุกภาคส่วนจะต้องทำงานร่วมกัน เพื่อจัดหาโลหิตสำรองไว้ประมาณ 60,000 – 70,000 ยูนิต ต่อปี และในช่วงเทศกาลจะมีความต้องการโลหิตสูงกว่าช่วงเวลาปกติ จึงต้องเร่งจัดหาโลหิตสำรองเพิ่มเอาไว้ให้เพียงพอ

ADVERTISMENT

ซึ่งทุกภาคส่วนได้ร่วมกันคิดจัดหาโลหิตเพิ่มเติม โดยกำหนดไว้ 2 กลยุทธ์ คือ 1.เน้นไปที่กลุ่มคนรุ่นใหม่ หาโลหิตจากคนรุ่นใหม่ มาทดแทนโลหิตจากคนรุ่นเก่าที่ส่วนใหญ่จะเริ่มมีอายุที่มากขึ้น จำเป็นจะต้องหาคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจสังคมมาร่วมบริจาคโลหิตให้มากยิ่งขึ้น จึงเป็นที่มาของแนวคิดที่ว่า “เลือดคนรุ่นใหม่ โคราชไม่ขาดเลือด” และกระตุ้นให้มาร่วมบริจาคโลหิตให้บ่อยขึ้น โดยหากเตรียมสภาพร่างกายให้พร้อม สามารถจะบริจาคโลหิตได้ถึงปีละ 4 ครั้ง ซึ่งจังหวัดนครราชสีมา มีปริมาณการใช้โลหิตตลอดทั้งปีค่อนข้างสูง มีความจำเป็นอย่างมากที่จะต้องจัดหาโลหิตสำรองไว้ให้เพียงพอต่อผู้ใช้บริการ จึงขอเชิญชวนเยาวชนที่มีอายุตั้งแต่ 17 ปีขึ้นไป และประชาชนทุกเพศทุกวัยที่มีร่างกายสมบูรณ์พร้อมสำหรับบริจาคโลหิต ได้มาทำบุญร่วมกันด้วยการบริจาคโลหิต เพื่อช่วยชีวิตผู้ป่วยเจ็บ จะได้มีโลหิตอย่างเพียงพอสำหรับการดูแลรักษา”นายชัยวัฒน์ฯ กล่าว

ADVERTISMENT
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image