อุกอาจ คนร้ายวางแผน 2 ชั้น ยิงแล้วเผา รองสารวัตร ทั้งวางระเบิดขบวนย้ายศพ
เมื่อเวลา 11.40 น. วันที่ 10 เมษายน พล.ต.ต.ไมตรี สันตยากุล ผบก.ภ.จว.นราธิวาส พ.ต.อ.ดิเรก โฉมยงค์ รอง ผบก.ภ.จว.นราธิวาส พร้อมเจ้าหน้าที่ รุดเดินทางไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุ คนร้ายลอบวางเพลิงรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นยาริส และใช้อาวุธยิง ร.ต.อ.อำมฤต อัปมระกา อายุ 40 ปี รองสารวัตรสอบสวนกลุ่มงานสอบสวนตำรวจภูธร จ.นราธิวาส ที่มีคำสั่งโยกย้ายเมื่อวันที่ 8 เมษายน ไปปฏิบัติหน้าที่ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองเลย เสียชีวิต พร้อมขโมยอาวุธปืนพก ขนาด 9 มม. ไปด้วย 1 กระบอก เหตุเกิดเมื่อเวลา 18.58 น.ของวันที่ 9 เมษายนที่ผ่านมา ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะมีการวางแผนประชุมเพื่อเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุในช่วงเช้าที่ห้องประชุม สภ.สุไหงปาดี หลังเก่า
เมื่อถึงที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ใช้สุนัขดมกลิ่นทำการตรวจสอบวัตถุต้องสงสัยตลอดแนว 2 ฟากฝั่งริมถนนเป็นระยะทางยาวกว่า 200 เมตร ก่อนถึงจุดเกิดเหตุ พร้อมทั้งให้เจ้าหน้าที่อีโอดีเปิดเครื่องรบกวนสัญญาณโทรศัพท์มือถือและวิทยุสื่อสาร เกรงคนร้ายจะมีการลอบฝังระเบิดเพื่อดักสังหารเจ้าหน้าที่ ขณะเดินทางเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ
พบว่าพื้นที่ปลอดภัย เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบรถเก๋งที่ถูกคนร้ายลอบวางเพลิงได้รับความเสียหายทั้งคัน นอกจากนี้ห่างออกไปจากรถยนต์ที่จอดอยู่บนถนน ประมาณ 25 เมตร ซึ่งเป็นจุดที่ ร.ต.อ.อำมฤต ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงเข้าที่บริเวณเบ้าตาขวาทะลุท้ายทอย 1 นัด เจ้าหน้าที่พบร่องรอยของคนร้ายได้เหยียบย่ำต้นหญ้าหักเป็นวงกว้าง และพบรอยเลือดจำนวนหนึ่งตกอยู่ เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
ต่อมาเจ้าหน้าที่เดินทางไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุระเบิด ซึ่งห่างจากจุดคนร้ายลอบวางเพลิงรถยนต์และยิง ร.ต.อ.อำมฤต เสียชีวิต ประมาณ 1.5 กม. พบรถกระบะแค็บ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นไฮลักซ์ วีโก้ สีขาว ซึ่งมีกรงนกบรรทุกอยู่ในที่นั่งแค็บ ที่อยู่ในสภาพหงายท้องชี้ฟ้า อยู่ข้างหลุมระเบิดลึก 1.5 เมตร กว้าง 4 เมตร ที่มีซากเศษชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในถังแก๊สปิกนิก หนัก 25 กก. จุดชนวนด้วยแบตเตอรี่ที่ลากสายไฟเข้าไปในป่ารกทึบริมทาง คลุกเคล้ากับเศษซากชิ้นส่วนของรถยนต์ตกกระจายเกลื่อนพื้นถนนและพงหญ้ารกทึบริมทาง เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นางสาวซาโนรา มามะ อายุ 32 ปี ซึ่งเป็นภรรยา แจ้งว่า ร.ต.อ.อำมฤตเดินทางออกจากบ้านพักในพื้นที่ ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโก-ลก เพื่อไปดูสวนในพื้นที่จุดเกิดเหตุเมื่อเวลา 16.00 น. หลังจากนั้นด้วยความเป็นห่วงจึงใช้โทรศัพท์โทรไปหาอีกครั้ง พบว่า ร.ต.อ.อำมฤตไม่สามารถติดต่อได้ ต่อมาเมื่อเวลา 22.30 น. พ.ต.อ.ดิเรก โฉมยงค์ รอง ผบก.ภ.จว.นราธิวาส พ.ต.อ.นิยม สุวรรณคง ผกก.สส.ภ.จว.นราธิวาส พ.ต.อ.มะตาฮา มูหนะ ผกก.สภ.สุไหงปาดี พ.อ.ปัญจพล ทรัพย์บวร ผบ.ฉก.ทพ.48 ได้ประชุมวางแผนเพื่อเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ
โดยได้ขอรับการสนับสนุนเฮลิคอปเตอร์ จาก ฉก.นราธิวาส เพื่อบินกดดันกลุ่มคนร้ายทางอากาศ ก่อนที่จะนำรถหุ้มเกราะรีว่า จำนวน 2 คัน รถกระบะหุ้มเกราะ 3 คัน รถยนต์จากหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยเซิ่งหมู่ธารน้ำใจสุไหงโก-ลก สาขาสุไหงปาดี 1 คัน รวมเป็น 6 คัน เดินทางเข้าไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุ เพื่อนำศพ ร.ต.อ.อำมฤต เคลื่อนย้ายมายังโรงพยาบาลสุไหงปาดี เพื่อให้แพทย์ทำการชันสูตรพลิกศพ
และในช่วงที่เจ้าหน้าที่กำลังช่วยกันนำร่าง ร.ต.อ.อำมฤต เพื่อเคลื่อนย้ายไปโรงพยาบาล พ.ต.อ.มะตาฮา ผกก.สภ.สุไหงปาดี พบรถกระบะที่ พ.จ.อ.ทนงศักดิ์ สว่างวารี อายุ 39 ปี เจ้าหน้าที่ทหารสังกัด หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 41 อ.สุไหงปาดี เป็นคนขับ และมีนายวารี สมัตนถนาค อายุ 37 ปี ชาวบ้าน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ที่นั่งคู่กันมา จึงสอบถามทราบว่าได้ขับรถมาจากพื้นที่ อ.เจาะไอร้อง เพื่อเดินทางไปยังหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 41 ซึ่งในขณะนั้นติดขบวนรถไม่สามารถผ่านไปมาได้ จึงต่อท้ายขบวนเป็นคันที่ 7
จนกระทั่งเวลา 00.27 น. ขบวนนำศพ ร.ต.อ.อำมฤต เคลื่อนย้ายออกจากจุดเกิดเหตุ โดยต้องไปเลี่ยงอีกเส้นทางหนึ่งทางหมู่บ้านลาแลลูวัส หมู่ 7 ต.ริโก๋ ขบวนรถของเจ้าหน้าที่ขับผ่านห่างจากจุดเกิดเหตุ ประมาณ 1 กม. ได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนแฝงตัวอยู่ในป่ารกทึบริมทาง ได้จุดชนวนระเบิดที่ลอบฝังไว้ใต้ผิวถนน จนเกิดระเบิดขึ้นในขณะที่รถกระบะคันสุดท้ายของ พ.จ.อ.ทนงศักดิ์ ผ่าน ทำให้รถกระบะหงายท้องล้อชี้ฟ้า พ.จ.อ.ทนงศักดิ์ได้รับบาดเจ็บจากเหตุรถกระบะพลิกคว่ำ
ส่วน นายวารี ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณกลางศีรษะ เจ้าหน้าที่จึงได้ช่วยเหลือ พ.จ.อ.ทนงศักดิ์ และนายวารี ส่งรักษาที่โรงพยาบาลสุไหงปาดี เมื่อแพทย์ทำการปฐมพยาบาลแล้วเสร็จ ได้อนุญาตให้นายวารีกลับรักษาตัวที่บ้านพัก ส่วน พ.จ.อ.ทนงศักดิ์ นอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลสุไหงปาดี และเมื่อแพทย์ทำการชันสูตรพลิกศพ ร.ต.อ.อำมฤต แล้วเสร็จ ได้นำศพไปไว้ที่ห้องดับจิตโรงพยาบาลสุไหงโก-ลก
ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นฝีมือการกระทำของสมาชิกแนวร่วมผู้ก่อเหตุรุนแรง ที่มีการประชุมวางแผนดักสังหารเจ้าหน้าที่ล่วงหน้าเป็นอย่างดี ซึ่งพื้นที่จุดเกิดเหตุละแวกดังกล่าวมีภูมิประเทศล้อมรอบด้วยภูเขา ซึ่งในช่วงที่ผ่านมามีเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวหลายครั้ง มีเจ้าหน้าที่และชาวบ้านเสียชีวิตหลายราย
