ซีวิคแดงสวมทะเบียน พุ่งชนอดีตครูวัย 82 ดับสลดขณะรอใส่บาตร เผย คนขับ มีหมายจับติดตัว
จากกรณีที่เพจเฟซบุ๊ก “เจ๊ม้อยV+” ได้ตีแผ่เรื่องราวของรถซิ่ง ที่ซิ่งแข่งกันมาจนเกิดอุบัติเหตุแล้วไปคร่าชีวิตคุณยายวัย 82 ปี ที่กำลังรอใส่บาตรพระตอนเช้า ต้องจบชีวิตอย่างอนาถ ในสภาพร่างกายถูกแรงชนจนขาดเป็น 2 ท่อน โดยเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 06.17 น. ของวันที่ 9 เมษายน ที่ผ่านมา ซึ่งมีภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพได้ว่ามีรถเก๋งสีแดง แต่งซิ่ง ขับแข่งกันมากับรถกระบะ สีบรอนซ์ บนถนนสายตะเคียนเลื่อน ที่มุ่งหน้าเข้าสู่ตัวเมืองนครสวรรค์ โดยทั้งสองคันขับแข่งซิ่งกันมาด้วยความเร็วสูงก่อนจะเสียหลักตรงทางโค้ง แล้วไปพุ่งชนร่างนางรัตนา บุตรประดิษฐ์ หรือครูแม็ก อายุ 82 ปี จนเสียชีวิตคาที่บริเวณหน้าบ้านพัก ในสภาพน่าสยดสยอง
ส่วนหลังเกิดเหตุ มีชาวบ้านช่วยกันไล่จับกุมตัวคนขับรถไว้ได้ 1 คน คือ นายสุภลักษณ์ พูลเขตกัน อายุ 28 ปี คนขับรถกระบะ ซึ่งหลังจากรถของตัวเองเสียหลักไปอัดกับเสาไฟฟ้าแล้ว ได้ทิ้งรถวิ่งหนีข้ามถนนออกมาจากจุดเกิดเหตุ แต่ก็ไม่รอด เพราะมีชาวบ้านเห็นก่อนจึงรีบตามไปไล่จับกลับมา ส่วนรถเก๋ง ทราบว่ามากันสองคน เป็นคนขับชาย 1 หญิง 1 ซึ่งใช้ช่วงชุลมุนหลบหนีออกจากจุดเกิดเหตุ ด้วยการใช้รถเพื่อน ยี่ห้อนิสสัน บิ๊กเอ็ม สีน้ำเงิน ที่ขับไล่ตามหลังมา มารับตัวออกไป พร้อมกับให้พรรคพวกที่เหลือ เข้าไปหยิบสิ่งของบางอย่างภายในรถเก๋งคันที่ประสบอุบัติเหตุออกไปด้วย ก่อนทั้งหมดจะหลบหนีออกไปทันที โดยมีการอ้างกับชาวบ้านมีฝ่ายหญิงสาวที่อยู่ภายในรถมีอาการบาดเจ็บ ต้องรีบนำตัวไปส่งโรงพยาบาล ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถติดตามจับกุมตัวได้
ล่าสุดเมื่อวานนี้ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านที่เกิดเหตุอีกครั้ง พบนายรัตนะ บุตรชายของนางรัตนา ผู้เสียชีวิต พาไปชี้จุดที่เกิดเหตุบริเวณหน้าบ้าน ซึ่งก็พบว่ายังมีร่องรอยความเสียหาย มีทั้งเสาไฟส่องสว่างถูกชนจนโค่นล้มไป 1 ต้น ต้นไม้ประดับที่ปลูกไว้ริมรั้วหน้าบ้านก็ถูกชนจนหักหลายจุด รวมถึงยังมีเศษซากชิ้นส่วนที่เสียหายจากรถซิ่งทั้ง 2 คัน ทิ้งเอาไว้ให้ดูต่างหน้าด้วย ซึ่งนายรัตนะ ให้ข้อมูลว่า ถนนเส้นหน้าบ้านนี้ มักจะได้ยินเสียงแข่งรถเป็นประจำในช่วงเช้าตรู่ เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่มีรถน้อยและเป็นถนน 4 เลน จึงทำให้พวกรถแต่งซิ่งท่อดัง มักจะใช้ความเร็วซิ่งประลองกัน
ส่วนนางรัตนา แม่ของตนที่เสียชีวิต เป็นอดีตครูสอนนักเรียนระดับประถมที่เกษียณมานานหลายปีแล้ว ซึ่งเขามักจะชอบทำบุญ และออกมาตักบาตรหน้าบ้านเป็นประจำทุกเช้า แต่ในวันที่เกิดเหตุ ตนไม่ได้อยู่ที่บ้าน เพราะทำงานอยู่ต่างจังหวัด แต่ก็ทราบจากแม่ว่าวัดในพื้นที่มีการบวชสามเณรภาคฤดูร้อน แม่ตั้งใจมากว่าจะออกไปใส่บาตรให้กับเหล่าสามเณร แต่ก็ยังไม่ทันได้ใส่บาตรก็มาเกิดเรื่องเสียก่อน
ส่วนนายยศวร อายุ 18 ปี มีศักดิ์เป็นหลานของนางรัตนา เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า วันเกิดเหตุ ตนและแม่ยังนอนอยู่บนชั้น 2 ของบ้าน จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงรถชนกันอย่างดัง จึงรีบวิ่งลงมาดูคุณย่าด้วยความเป็นห่วง โดยรีบเดินตามหาภายในบ้านก่อน แต่ก็หาไม่เจอ จนกระทั่งได้ยินเสียงชาวบ้านร้องอุทาน และเรียกชื่อว่าคุณยายแม็ก อยู่ที่บริเวณหน้าบ้าน ตนจึงรีบวิ่งไปดู ก็แทบเข่าทรุด เพราะสภาพร่างของคุณย่าโดนรถชนขาดถึง 2 ท่อน
“เมื่อ 2 วันก่อน ย่ายังบอกกับตนอยู่เลย ว่าวันสงกรานต์ 13 เมษายน ที่จะถึงนี้ จะเป็นวันรวมญาติ ซึ่งก็ได้นัดญาติพี่น้องทั้งหมด ให้มารวมตัวกันที่บ้านในวันดังกล่าว เพื่อร่วมทำบุญให้กับคุณปู่ที่เสียชีวิต และก็ได้มีการนัดพระไว้หมดแล้ว แต่สุดท้ายก็มาเกิดเหตุสลดเสียก่อน”
ขณะที่นายอั๋น ซึ่งเป็นญาติของนางรัตนา ได้กล่าวเปิดเผยในเรื่องความคืบหน้าของคดีว่า ตอนนี้ตำรวจรู้ตัวคนขับรถเก๋งที่หลบหนีไปแล้ว ทราบชื่อคือ นายภาณุพงศ์ บุญมา หรือ ต้นกล้า เป็นคนในพื้นที่ ต.หนองกรด อ.เมืองนครสวรรค์ ซึ่งทางตำรวจชุดสืบสวนกำลังไล่ล่าตัวอยู่ ส่วนรถเก๋งแดงคันที่เกิดอุบัติเหตุ ก็ทราบว่า เป็นรถที่สวมทะเบียนปลอม
เมื่อถามถึงคนขับรถกระบะ นายอั๋นระบุว่า นายสุภลักษณ์ คนขับรถกระบะ ถูกจับกุมได้ตั้งแต่วันเกิดเหตุ โดยตำรวจได้มีการนำตัวไปตรวจปัสสาวะ พบว่า ฉี่สีม่วง จึงนำได้มีการนำตัวไปสอบปากคำก่อนจะปล่อยตัวไปเป็นการชั่วคราว ซึ่งเจ้าตัวยังสามารถติดต่อได้ และวันนี้ก็ยังให้แฟนสาวโทรศัพท์มาหาลูกชายของผู้ตาย โดยจะขอพาเจ้าตัวมากราบขอขมา และร่วมงานศพ แต่ทางลูกชายบอกไปว่า ตอนนี้คนในครอบครัว สภาพจิตใจยังไม่พร้อมจะเจอ จึงขอให้มาในวันหลัง
“สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้น ได้สร้างความหวาดผวาให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก กลัวว่าสักวันจะต้องมาจบชีวิตแบบนี้ ซึ่งผมก็เห็นกล้องวงจรปิดหมดทุกมุมแล้ว มันน่าจะขับแข่งกันมามากกว่าการกล่าวอ้างของคนขับรถกระบะ ที่บอกว่าโดนไล่ล่ามา ซึ่งตอนนี้ก็ยังติดใจ ในเรื่องที่มีพรรคพวกเพื่อนฝูงของคนที่ขับรถเก๋ง ขับรถกระบะและมอเตอร์ไซค์ตามกันมาขนของภายในรถเก๋งคันที่ประสบอุบัติเหตุออกไป เหมือนมาเก็บหลักฐานอะไรบ้างอย่าง จึงอยากฝากไปถึงกลุ่มคนพวกนี้ว่า เรามีภาพหลักฐานคนทั้งหมดเอาไว้แล้ว หากบริสุทธิ์ใจ ก็รีบมาให้การกับตำรวจจะดีกว่าถูกจับร่วม ซึ่งเรื่องนี้ ผมส่งหลักฐานให้กับตำรวจชุดสืบสวนไว้หมดแล้ว”
ทั้งนี้ ในส่วนของตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองนครสวรรค์ ได้มีการนำตัวนายสุภลักษณ์ มาสอบปากคำอีกครั้ง ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่า รู้จักกับคนขับรถเก๋ง ซึ่งมีหมายจับคดียาเสพติดของ สภ.หนองปลิง อ.เมืองนครสวรรค์ ติดตัวอยู่ พร้อมกับมีข้อมูลด้วยว่า การซิ่งแข่งความเร็วครั้งนี้ น่าจะมีการรีบไปส่งของอะไรบางอย่างกัน จนทำให้เกิดอุบัติเหตุ ซึ่งยังอยู่ในระหว่างการสอบปากคำ โดยจะมีการรายงานให้ทราบความคืบหน้าต่อไป