รวบชาวฝรั่งเศส-ภรรยาชาวไทย เช่ารีสอร์ทหรู มั่วสุมปาร์ตี้เสพยาเสพติด ค้าโคเคน ยาอี ผลิตยาแผนปัจจุบันเถื่อน
เมื่อวันที่ 12 เมษายน สภ.กมลา ร่วมกับ กก.สืบสวน ภ.จว.ภูเก็ต และ กก.สืบสวน ภ.8 ภายใต้อำนวยการ พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8 พล.ต.ต.สินเลิศ สุขุม ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.อ.อนุรักษ์ ปริญญาสถิรกุล ผกก.สภ.กมลา พ.ต.อ.เทพนม สุวรรณรัตน์ ผกก.สส.3 บก.สส.ภ.8 พร้อมพวกเข้าค้นวิลล่าหรู แห่งหนึ่ง ใน ต.กมลา อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต
สืบเนื่องจากการสืบสวน ทราบว่า ผู้ต้องหา เป็นเครือข่าย ค้ายาเสพติดให้กับชาวต่างชาติ และมั่วสุมเสพยาเสพติด โดย ผู้ต้องหา พักอาศัยอยู่ที่วิลล่าหรู แห่งหนึ่ง ในตำบลกมลา อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต ทางสภ.กมลา จึงสนธิกำลัง กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต และกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 8 เข้าตรวจสอบวิลล่าหรูดังกล่าว
ผลการตรวจสอบ พบโคเคน ยาอี ของเหลวใช้สำหรับเสพติด ยาแผนปัจจุบันที่ไม่ผ่านการตรวจจาก อย. สารเคมีที่ใช้ในการผลิตยา และเครื่องมือในการผลิตยาจำนวนมาก
จับกุม ผู้ต้องหา ดังนี้
1. Mr.Garniron อายุ 42 ปี สัญชาติฝรั่งเศส
2. นางสาวพรรณทิวา (สงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี
3. นางสาวสุดธิดา (สงวนนามสกุล) อายุ 23 ปี
พร้อมยึดของกลางยาเสพติด
1 .ยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 2 (โคเคน) น้ำหนักรวม 73.22 กรัม
2.ยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาอี) จำนวน 512 เม็ด
3.วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (เคตามีน) จำนวน 173.42 กรัม
4.แกลลอนติดสติกเกอร์ระบุข้อความตัวอักษร Geebliss ขนาด 3 ลิตร ข้างในบรรจุของเหลวไม่ทราบชนิด จำนวน 5 แกลลอน เชื่อว่าเป็นสารตั้งต้นในการผลิตยาเสพติด ยาแผนปัจจุบันเถื่อน บลอคปั้มยา เครื่องมือผลิตยา รวมของกลางที่ใช้กระทำความผิดรวม 60 รายการ
โดยแจ้งข้อกล่าวหาหนัก ผู้ต้องหาที่ 1-2 “ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคเคน) โดยการมีไว้เพื่อการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาตอันเป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนและมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาอี) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย และร่วมกันผลิตยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา 12 และผลิตยาที่มิได้ขึ้นทะเบียนตำรับตามมาตรา 72(4) ตาม พรบ.ยา พ.ศ.2510”
ผู้ต้องหาที่ 3 “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาอี ) และมียาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคเคน) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย”
พร้อมนี้ได้ตรวจยึดทรัพย์สินที่คาดว่าได้มาจากการค้ายาเสพติดจำนวนหลายล้านบาทส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังได้ขยายผลไปจับกุมคลินิกเสริมความงามในเขต ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต จับกุมผู้ต้องหาชาวไทย 3 ราย โดยแจ้งข้อกล่าวหา
1.ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ขึ้นทะเบียนและรับใบรับอนุญาต
2.ไม่จัดให้มีผู้ประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาลตามวิชาชีพและจำนวนที่กำหนดในกฎกระทรวงตลอดเวลาทำการ
3.ไม่ควบคุมและดูแลให้ผู้ประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาลประกอบวิชาชีพผิดไปจากสาขานั้นหรือแผนที่ผู้รับอนุญาตได้แจ้งไว้ในการขอรับใบอนุญาตหรือมิให้บุคคลอื่นซึ่งมิใช่เป็นผู้ประกอบวิชาชีพทำการประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาล
จากนั้น ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ดำเนินคดีตามกฎหมาย และ จะสืบสวนขยายผลจับกุมเครือข่ายผู้กระทำผิดต่อไป