(18 ม.ค.59) นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วยนายปรีชา ศิริแสงอารำพี ประธานหอการค้า จ.สมุทรสาคร ได้จัดประชุมหารือเพื่อแนวทางการแก้ไขปัญหาให้แก่สถานประกอบการแปรรูปกุ้งเบื้องต้น (ล้ง) กรณีหลังสมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทย มีประกาศสั่งอุตสาหกรรมต่อเนื่องประมงส่งออกกุ้ง (ห้องเย็นในเครือ) เลิกว่าจ้างผู้ประกอบการล้งแกะกุ้งภายนอกโรงงาน สืบเนื่องจากปัญหามีข้อกล่าวอ้างต้นตอการใช้แรงงานผิดกฎหมายและการใช้แรงงานเด็ก เป็นเหตุให้ประเทศไทยถูกโจมตีได้รับความเสียหายทางการค้า โดยมีจัดหางาน จ.สมุทรสาคร และนายจ้างกว่า 50 ล้งเข้าร่วมรับฟัง ทั้งนี้ผลการหารือปรากฏว่า ล่าสุดได้เตรียมผลักดันยกระดับเพื่อให้ผู้ประกอบการล้งแปรรูปแกะกุ้ง ขยับขึ้นเป็นโรงงานอุตสาหกรรมตามสภาพขนาดต่างๆ
นายปรีชากล่าวว่า สำหรับการผลักดันเพื่อยกระดับให้ผู้ประกอบการล้งแปรรูปแกะกุ้งเบื้องต้นได้ขยับขึ้นเป็นโรงงานอุตสาหกรรมนั้น ก็ถือว่าเป็นการดีอย่างไรก็ดีต้องมีเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือผลักดันอีกแรงหนึ่งเพื่อความราบรื่น ซึ่งก็ถือเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของล้งแปรรูปสัตว์น้ำด้วย พร้อมกันนี้ในส่วนปัญหาเลิกว่าจ้างล้งนั้นเป็นเรื่องละเอียดอ่อนเนื่องจากเป็นภาคเอกชน อย่างไรก็ตามขณะนี้ทางหอการค้าจังหวัดอยู่ระหว่างดำเนินการเรียกผู้ประกอบการห้องเย็นที่มีฐานะเป็นพี่เลี้ยงเพื่อมาเจรจาช่วยบรรเทาปัญหาเรื่องเยียวยาแก้ผู้เดือดร้อนต่อไปซึ่งบางรายรับปาก
ด้านนายอาคม เครือวัลย์ ประธานสถานแปรรูปสัตว์น้ำเบื้องต้น จ.สมุทรสาคร เผยว่า จากประกาศของสมาคมอาหารแช่เยือกแข็งฯ ออกมาเป็นเหตุให้มีการเลิกจ้างอย่างกะทันหัน ส่งผลให้มีแรงงานต่างด้าวว่างงานไม่มีงานทำจำนวนมากโดยล้งแปรรูปแต่ละแห่งมีแรงงานต่างด้าวประมาณ 70 คนถึง 100 กว่าคน ซึ่งล่าสุดได้ขยับขยายเปลี่ยนอาชีพไปแล้วหลายเพราะไม่มีวัตถุดิบกุ้งป้อนเข้ามาให้แปรรูป กระทั่งแบกรับภาระจ่ายค่าแรงงานลูกน้องไม่ไหว ทั้งนี้ท้ายที่สุดล้งแกะกุ้งก็ต้องถูกโรงงานใหญ่กลืนเหลือแค่ตำนาน
ขณะที่ นายประสิทธิ์ พูลจันทร์ ตัวแทนจัดหางาน จ.สมุทรสาคร เผยว่า การกรณีคำสั่งของสมาคมแช่เยือกแข็งไทยดังกล่าวทีให้สมาชิกอุตสาหกรรมแปรรูปส่งออกกุ้ง หยุดการซื้อและส่งวัตถุดิบให้ล้งแปรรูปกุ้งฐานะในเครือ (แกะหัว-ปลอกเปลือก) โดยเด็ดขาด ส่งผลให้กรมการจัดหางานได้รับผลกระทบกับกับนายจ้างเรื่องปัญหาแรงงานต่างด้าว ไม่สามารถทำงานต่อไป ล่าสุดจึงออกประกาศให้อนุญาตให้แรงงานในกิจการประมงทะเลที่ประสบปัญหาไม่สามารถทำงานต่อกับนายจ้างเดิม สามารถเปลี่ยนไปทำงานกับรายใหม่ได้ในกิจการเดิม หรือกิจการอื่นๆทั้งในจังหวัดและนอกจังหวัด ที่เคยได้รับอนุญาตทำงานทั้ง 22 จังหวัดติดทะเล
“ทั้งนี้สำหรับล่าสุดมีแรงงานและนายจ้างทยอยมาแจ้งเปลี่ยนงานและนายจ้าง ไปแล้วกว่า 2 พันคนซึ่งคาดไม่น่าจะต่ำวกว่าประมาณ 5-6 พันคนในเหตุการณ์ครั้งนี้” นายประสิทธิ์ กล่าว
