หมอดูทิพย์! ร้องสาวบุรีรัมย์ทำ AI เชื่อมจิต หลอกคนบ้านเดียวกัน ผู้เสียหายเพียบ

สาวอายุ 28 สวมรอยเป็นหมอดู ตั้งชื่ออาจารย์ขึ้นมาเอง หลังมีคนโทรมาขอให้หาหมอดูให้ อ้างทำได้ทั้งเสริมดวง ทำเสน่ห์ ทำคุณไสย เรียกคนละ 1,000-80,000 รวมแล้วกว่า 5 แสนบาท แต่ไม่ยอมคืนให้ตามคำสัญญา เผยสร้าง AI มาหลอกให้เชื่อ ขณะเจ้าตัวสวนกลับ ติดต่อมาเอง ไม่ได้โฆษณาชวนเชื่อ ท้าพิสูจน์หลักฐาน

เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านในเขต อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ ว่าถูกหญิงคนบ้านเดียวกันหลอกให้เสริมดวง ทำเสน่ห์ แต่ต้องวางค่าครูล่วงหน้าครบ 9 วันจะคืนให้ สุดท้ายบ่ายเบี่ยง

สอบถาม น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 35 ปี ชาว อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ ที่ทำงานอยู่ต่างประเทศ ทางโทรศัพท์วิดีโอคอล เล่าว่า ก่อนหน้านี้มีคนทักแม่มาว่าลูกสาวที่อยู่ต่างแดนมีโอกาสจะเลิกกับสามี ถ้าแก้ได้ให้แก้ ซึ่งตรงกับที่ตนกำลังมีปัญหากับแฟนพอดี

จึงถามแม่ว่ารู้จักหมอดูที่ไหนบ้าง แม่บอกว่าให้ลองถาม “เจ้าทราย” ดูเพราะเป็นคนบ้านเดียวกันและน่าจะพอรู้จักกับหมอดูบ้าง จึงทักหาทรายทางเฟซบุ๊กไปถามว่าดูดวงใช่ไหม ทรายตอบว่ามีอาจารย์กี้ แต่ตอนนี้ยังไม่ได้ อาจารย์กี้ยังไม่เข้าทรง ต่อมาทรายได้โทรมาขอวันเดือนปีเกิด

ADVERTISMENT

โดยทรายแจ้งมาว่าจะต้องมีขึ้นค่าครู 999 บาท ตนบอกว่าทำไมค่าครูแพงจัง ได้รับคำตอบว่าเป็นเงินขึ้นพานขึ้นครู ถ้าขึ้นเสร็จก็จะคืนเรามาภายใน 9 วัน ตนก็อยากทำตามความเชื่อของคนบ้านเรา จึงโอนไปให้

หลังจากนั้นทรายได้ส่งภาพสามีของตนอยู่ในพานใบใหญ่ใส่น้ำส่งมาให้ ทราบต่อมาจากเพื่อนว่าเขาใช้ AI ทำให้ ต้องการสื่อให้เรารู้ว่าเขากำลังเชื่อมต่อกับสามีเราทางจิตได้

แต่ยังไม่จบ ทรายยังบอกอีกว่าจะต้องมีทองเพื่อไปขึ้นครูและเงินสด ตนก็ยอมทุกครั้งเพราะสัญญาว่าจะคืนให้ โดยตนโอนเงินให้แม่ที่บุรีรัมย์ แล้วแม่เป็นคนโอนให้ทราย ทั้งหมด 16 ครั้ง รวมเป็นเงินกว่า 85,000 บาท

ผ่านไปหลายเดือนตนพยายามทวงถามเรื่องเงินที่จะคืนให้ แต่ถูกบ่ายเบี่ยงทุกครั้ง จึงบอกไปว่าถ้าไม่คืนให้จะไปแจ้งความ แต่ทรายกลับขู่มาอีกว่า ถ้าทำแบบนั้นก็เจอกันว่าใครจะแน่กว่ากัน เพราะว่าทรายเคยไปออกรายการทีวีช่องหนึ่ง รู้จักทนายความ รู้จักนักข่าว เขาบอกว่าไม่กลัว ตอนนี้มีคนไปแจ้งความที่ สภ.เมืองแล้วหลายคน

ขณะที่นางไก่ (นามสมมุติ) อายุ 46 ปี ชาว ต.ตะโคง อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ เล่าว่า ตนก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ถูกหลอกไปเป็นเงิน 1,000 บาท โทรถามเอาคืนไม่ได้ ตนก็จะปล่อยทิ้งไป แต่เท่าที่ทราบมีคนอีกหลายคนที่ถูกกระทำในลักษณะเดียวกัน เสียหายคนละ 2 หมื่นบ้าง 3 หมื่นบ้าง และล่าสุดมีคนทำงานบริษัทใหญ่แห่งหนึ่งใน อ.บ้านด่าน โดนไปกว่า 300,000 บาท แต่ยังไม่ไปแจ้งความ

ผู้สื่อข่าวโทรศัพท์สอบถาม น.ส.จินดารัตน์ หรือทราย อายุ 28 ปี ตอนนี้ทำงานอยู่ จ.ภูเก็ต ผู้ถูกกล่าวหา โดย น.ส.ทรายบอกว่าเรื่องทั้งหมดไม่เป็นความจริง ตนเป็นหมอดูที่อยู่ดีๆ มีคนโทรมาถามให้ทำให้ ตนก็ทำ ตนไม่ได้บังคับ ไม่ได้โฆษณาชวนเชื่อใดๆ

ยอมรับว่าได้สัญญาว่าจะคืนเงินให้ทุกบาท แต่ไม่พอใจที่เขาเอาไปโพสต์ทางโซเชียล ตอนนี้ตนไม่กลัวเพราะมีหลักฐานทุกอย่างทั้งก่อนหน้าและหลังการดูหมอ ที่ผ่านมาตนทำสำเร็จมาเป็นจำนวนมาก ภรรยาที่แยกกับสามีมานานกว่า 5 ปี ฝ่ายหญิงอยากได้ใบหย่า ตนได้ทำให้ได้ ตนพร้อมจะสู้ด้วยข้อมูลที่ตนมีอยู่

สำหรับ น.ส.ทราย เคยไปออกรายการถกไม่เถียง เนื่องจาก น.ส.ทราย ซื้อรถยนต์ป้ายแดงมาแบบเงินสด ใช้รถมาได้ 3 ปี มารู้ภายหลังว่าเป็นรถมือสอง ทำให้ผู้เสียหายคิดย้อนหลังว่าเงินที่ไปซื้อรถเงินสดเป็นเงินที่หลอกมาหรือไม่