ฝนถล่มพัด ‘เสาไฟแรงสูง’ ล้ม 17 ต้น ทับรถ 2 คันจอดติดไฟแดง เร่งรื้อถอน-ไม่มีผู้บาดเจ็บ

เกิดเหตุฝนฟ้าคะนองพัดเสาไฟฟ้าแรงสูงล้ม 17 ต้น โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 3 มิถุนายน เกิดเหตุพายุลมเขตพื้นที่เทศบาลสิงหนครบริเวณ ถนน 408 ตรงบริเวณป้อมเก้าเขตเทศบาลสิงหนคร อำเภอสิงหนครจังหวัดสงขลา ได้มีเสาไฟฟ้าแรงสูงล้มจำนวน 17 ต้นและสายไฟพาดถนนปิดการจราจรหนึ่งเลน ได้มีรถเก๋ง 1 คัน และรถกระบะ 1 คัน อยู่ระหว่างที่เสาไฟล้ม 2 คัน และไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ

หลังจากนั้นได้มีหลายหน่วยงานเข้าไปตรวจสอบเบื้องต้น มีเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าของอำเภอสิงหนคร การไฟฟ้าของจังหวัดสงขลา การไฟฟ้าของสทิงพระ บูรณาการร่วมกันพร้อมทั้งนายอำเภอและนายกเทศบาลเมืองสิงหนคร

นายเอกสิทธิ์ สองเมือง นายอำเภอสิงหนคร เมื่อเวลา 15.30 ได้เกิดพายุในพื้นที่สิงหนคร รุนแรงมากทำให้ เสาไฟฟ้า ล้มลงมาที่ถนนสายหลัก 408 ช่วงระหว่างป้อมเก้าซึ่งเป็นทางโค้งได้โค่นล้มจำนวน 18 ต้น และตอนนี้ทางการไฟฟ้าสิงหนครได้ลงพื้นที่ได้ทำการตัดไฟ พร้อมทั้งตรวจสอบที่ล้มทั้งหัวทั้งท้ายเรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้ ขณะที่เสาไฟฟ้าล้มเป็นจังหวะช่วงของไฟแดงพอดี ซึ่งมีรถอยู่ในถนนประมาณสองคัน มีรถเก๋งกลับรถกระบะ และปลอดภัยทั้งสองคัน จากการที่เราได้คุยกับเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าของสิงหนครการไฟฟ้าของจังหวัดสงขลา การไฟฟ้าของสทิงพระเราก็ได้ระดมกำลังรื้อถอนเสาไฟฟ้าที่ล้มอยู่ และรื้อสายไฟให้เร็วที่สุด ไม่เกินสามถึง 4 ชั่วโมงและจะดำเนินการให้เร็วที่สุด

ซึ่งเสาที่ล้มเป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง และเสาใหญ่เราต้องใช้รถของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเข้ามาช่วย พร้อมระดมกำลังทั้งรถของการไฟฟ้าสทิงพระการไฟฟ้าจังหวัดสงขลาการไฟฟ้าของสิงหนคร และได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้วและจะดำเนินการประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้มาดำเนินการโดยเร็วที่สุด เพื่อให้พี่น้องประชาชนสามารถใช้ไฟ ใช้ถนนโดยเร็วที่สุด

ADVERTISMENT

นายอำเภอสิงหนคร เผยอีกว่า ชาวบ้าน และผม เลื่อนรถเข้าข้างในพอดีกำลังถอดรื้อแผงประตู มีลมแรงพัดมารอบหนึ่งก่อน แต่ไม่แรงมาก และผมก็มาเก็บของที่เต็นท์ ก็เข้ามารื้อรถอีกทีนึงหรือเสร็จกะว่าจะไปเก็บของที่เต็นท์ จังหวะที่หันไปเสาไฟล้มพอดี และไฟก็สปาร์คแรงมาก และไฟฟ้าก็ดับพอดับเสร็จเราก็ไปอยู่ที่ท้ายรถข้างในร้าน หลังจากนั้นพอสปาร์ค รอบแรกมันก็สปาร์คอีกสองสามครั้ง ตอนจังหวะที่เสาไฟล้มนั้นมันมีรถติดอยู่สองคันแต่ว่าไม่ได้รับความเสียหายอะไรมาก และก็ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ