ผอ.โรงเรียนโคราช เริ่มทยอยจ่ายเงินทุนเด็กยากจน หลังผู้ปกครองรวมตัวร้องศูนย์ดำรงธรรม
กรณีที่ ตัวแทนกลุ่มผู้ปกครองของโรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอพระทองคำได้มายื่นหนังสือกับทางศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครราชสีมา หลังจาก ผอ.โรงเรียนดังกล่าวได้นำเงินทุนการศึกษาสำหรับนักเรียนยากจนไปจัดซื้อชุดพละและกระเป๋านักเรียนแจกให้กับนักเรียนทั้งโรงเรียน
อ่านข่าว – ผู้ปกครอง ร้องศูนย์ดำรงธรรม ผอ.โรงเรียนดังโคราช นำเงินทุนยากจน ซื้อชุดพละแจกเด็กทั้งร.ร.
เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังโรงเรียนแห่งหนึ่ง ใน อ.พระทองคำ จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นโรงเรียนที่เป็นข่าวพบว่าประตูด้านหน้าโรงเรียนนั้นปิดอยู่
ทางผู้สื่อข่าวโทรศัพท์สอบถามไปยัง ผู้อำนวยการโรงเรียน ซึ่งทางผู้อำนวยการโรงเรียนนั้นไม่สะดวกที่จะให้ข่าว บอกเพียงแต่ว่าให้สอบถามไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) นครราชสีมา เขต 5 เนื่องจากได้ชี้แจงไปยังหน่วยงานต้นสังกัดแล้ว ไม่อยากให้ข่าวเพราะกลัวข้อมูลคลาดเคลื่อน
ผู้สื่อข่าวจึงได้โทรศัพท์ไปสอบถามกับทาง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมาเขต 5 ทราบว่า ทาง สพป.เขต 5 ได้มีการลงพื้นที่ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นแล้วและกำลังตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่างๆ ส่วนทาง ผอ.โรงเรียนได้ชี้แจงมาแล้วว่ากำลังดำเนินการทยอยจ่ายเงินทุนการศึกษาสำหรับนักเรียนยากจนทั้งหมด 108 ราย ที่มีชื่อได้รับทุน
ในขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวก็ได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านของ นางแก้วตา ตัวแทนของผู้ปกครองเข้าไปยื่นหนังสือที่ศูนย์ดำรงธรรมพบว่าในพื้นที่บ้านของนางแก้วตาฯนั้นมีบ้านที่พักอาศัยอยู่ 3 หลัง โดยหลังที่อาศัยอยู่นั้นมีลักษณะเป็นบ้านไม้ยกสูงมุงด้วยแฝก
โดยที่นางแก้วตา มีลูกอยู่ 2 คน เรียนที่โรงเรียนดังกล่าวทั้ง 2 คน โดยอยู่ชั้น ป.4 และ ม.2 สำหรับทุนที่ได้นั้นจะเป็นของลูกคนโตที่ได้ปีการศึกษาละ 3,000 บาท ซึ่งปัจจุบันนี้ทางนางแก้วตาประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไปเนื่องจากต้องคอยรับส่งลูกไปโรงเรียนและคอยดูแลพ่อกับแม่ที่อายุเยอะแล้ว
นางแก้วตา กล่าวว่า ตั้งแต่กลับมาจากไปยื่นหนังสือทางโรงเรียนก็ยังไม่ได้ติดต่อมาหาตน แต่ตนก็ได้ข่าวจากทางผู้ปกครองที่ไม่ได้ไปยื่นหนังสือที่ศูนย์ดำรงธรรมว่าทางโรงเรียนจะติดต่อผ่านมาผ่านนักเรียนที่ได้รับทุนฯ ว่าโรงเรียนจะทยอยจ่ายทุนการศึกษาให้แต่จะจ่ายให้ก่อน 1 เทอม โดยตนเพิ่งรู้เมื่อช่วงเย็นวานนี้
นางแก้วตา บอกต่อว่า สำหรับเงินทุนการศึกษาที่ลูกของตนนั้นได้นั้นจะได้เทอมละ 1,500 บาท ก็ตกปีละ 3,000 บาท แต่เนื่องจากตนนั้นมีลูก 2 คน ซึ่งถ้าคนหนึ่งได้ทุนก็จะช่วยแบ่งเบาภาระเรื่องการเรียนไปได้ทั้งค่าเลี้ยงดูไปโรงเรียน การซื้ออุปกรณ์การเรียน แต่สำหรับการที่โรงเรียนจะนำเงินดังกล่าวไปซื้อชุดพละมาแจกนั้น ตนคิดว่าไม่เหมาะสมเนื่องจากบางครั้งความจำเป็นในการซื้อนั้นไม่เหมือนกัน เพราะบางครั้งก็ตั้งการชุดนักเรียนใหม่ หรือรองเท้านักเรียน
อย่างไรก็ตาม สำหรับเรื่องดังกล่าวนั้นตนมองว่าทางโรงเรียนสามารถทำได้แต่อย่างน้อยก็ขอให้แจ้งกับทางผู้ปกครองของเด็กที่ได้รับทุนว่าอยากให้ช่วยนับสนุนโรงเรียนในด้านไหนบ้าง เพราะตนมองว่าเงินก้อนดังกล่าวนั้น เป็นเงินที่ถูกจัดสรรมาให้กับนักเรียนที่เข้าเกณฑ์ในการได้รับทุนการศึกษายากจน และที่สำคัญผู้ปกครองก็คงไม่ได้ใจจืดใจดำถึงขนาดจะไม่ช่วยเหลือสนับสนุนโรงเรียนเพราะถ้าบอกตั้งแต่แรกก็พร้อมที่จะสนับสนุน.