ตาวัย 87 เสียรู้ ให้โฉนดคนใกล้ตัวไปแบ่งขาย ถูกโอนเปลี่ยนชื่อ โดนเจ้าใหม่ตามทวงหนี้ ต้องหนีจากที่ตัวเอง

ตาวัย 87 เสียรู้ ให้โฉนดคนใกล้ตัวไปแบ่งขาย ถูกโอนเปลี่ยนชื่อ โดนเจ้าใหม่ตามทวงหนี้ ต้องหนีจากที่ตัวเอง

เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากนายสุทิน ขอสงวนนามสกุล บุตรชายของคุณตาวัย 87 ปี ผู้เสียหายจากกรณีถูกหลอกนำโฉนดที่ดินไปแบ่งขาย แต่กลับถูกนำไปเปลี่ยนชื่อผู้ครอบครอง แล้วไปขายฝากยกแปลงกับนายทุน จนทำให้ผู้รับขายฝากมาไล่ที่ และข่มขู่ให้นำเงินไปไถ่ถอนขับไล่ออกจากที่ดินตนเอง ส่วนเงินจากการขายฝากก็ไม่ได้รับแม้แต่บาทเดียว ทุกข์ใจอย่างหนัก ทั้งที่ตั้งใจมอบที่ดินไว้ให้เป็นมรดกลูกหลาน จึงขอให้สื่อช่วยเหลือติดตามขอความเป็นธรรม

นายสุวรรณ (สงวนนามสกุล) อายุ 87 ปี ชาวบ้าน ต.อุโมงค์ อ.เมืองลำพูน จ.ลำพูน เปิดเผยว่า มีที่ดินอยู่ในพื้นที่ ต.ชมพู อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ติดลำน้ำกวง จำนวน 12 ไร่ 1 งาน โดยซื้อที่ดินพร้อมสวนลำไยแปลงนี้มาตั้งแต่ พ.ศ.2523 ได้ทำกินมาโดยตลอด แต่เมื่อเกิดช่วงโควิดเศรษฐกิจไม่ดีจึงคิดอยากแบ่งขายที่ดินแปลงดังกล่าว ตลอดจนตนอายุมากแล้ว จึงคิดแบ่งขาย ประมาณ 3 ไร่ จึงได้มอบโฉนดให้กับคนที่รู้จักนำไปให้นายหน้าและคนที่สนใจดู แต่เวลาผ่านไปนับปีโฉนดก็ไม่ได้คืน เมื่อถามคนที่นำไปขายก็ไม่ได้รับคำตอบ แต่ก็ยังอาศัยอยู่ในที่ดินตนเอง สุดท้ายมีคนมาทวงหนี้บอกให้นำเงินไปใช้คืน เนื่องจากที่ดินถูกขายฝากไว้ จึงตัดสินใจออกจากที่ดินมาอยู่กับบุตรชาย

นายสุวรรณยังบอกอีกว่า ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าโฉนดที่ดินตนเองถูกนำไปเปลี่ยนชื่อผู้ครอบครองที่สำนักงานที่ดินเรียบร้อยแล้ว และปรากฏลายเซ็นของตนอยู่บนเอกสาร ซึ่งเป็นใบมอบอำนาจให้นางเดือน (นามสมมุติ) ผู้ที่ตนเองฝากโฉนดให้ไปเสนอแบ่งขาย ถูกนำไปทำเรื่องเปลี่ยนชื่อสลักหลังโฉนดแล้วนำไปขายฝาก ทั้งที่ไม่เคยไปที่สำนักงานที่ดิน ไม่เคยมีใครติดต่อสอบถามตนเอง แต่สามารถทำได้อย่างไร

ADVERTISMENT

ส่วนจำนวนเงินที่ระบุในหนังสือสัญญาขายฝากนั้นเป็นจำนวนเงินสูงถึง 3,540,000 บาท ตนก็ไม่เคยได้รับจากใครแม้แต่บาทเดียว โดยเริ่มทำการขายฝากในวันที่ 29 มีนาคม 2567 มีกำหนดครบเวลาไถ่ถอน 1 ปี ในวันที่ 27 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา ในราคาไถ่ถอน จำนวน 4,060,000 บาท เหมือนอยู่ดีๆ ก็เป็นหนี้เขา จึงทำให้ที่ผ่านมาถูกตามทวงถามเงินไถ่ถอนอยู่บ่อยครั้งจนต้องย้ายออกจากที่พักในสวน ตนมาอยู่กับลูกชาย ทุกวันนี้รู้สึกท้อใจ อยู่ก็เหมือนตายไปแล้ว น้อยใจทั้งที่อยากเก็บที่ดินนี้ไว้เป็นมรดกให้ลูกหลานตนเองได้ทำกินต่อไป

ด้านนายสุทิน บุตรชาย กล่าวว่า ปกติพ่อตนเองจะอาศัยอยู่ที่บ้าน ซึ่งเดิมทีเป็นบ้านที่พักสำหรับเฝ้าสวน จนในช่วงก่อนโควิดพ่อได้ไปสร้างต่อเติมให้หลังใหญ่ขึ้นสำหรับอาศัยได้เพื่อทำสวนลำไย แต่พักหลังๆ พ่อมักมานอนกับตนเองที่บ้าน แล้วไม่อยากกลับไปบ้านสวนที่ตนเองไปพักมาหลายปี จึงสอบถามจนได้ความว่ากำลังเดือดร้อน ถูกคนมาทวงเงินที่ดิน จึงทำให้รู้ว่าโฉนดที่ดินของพ่อถูกนำไปขายฝากแล้วจนเกินระยะเวลาไถ่ถอนจึงถูกตามทวงได้รับความเดือดร้อน

หลังจากทราบเรื่องจึงนำนายสุวรรณ ผู้เป็นพ่อเข้าแจ้งความที่ สภ.สารภี จ.เชียงใหม่ เพื่อขอคัดสำเนาและตรวจสอบกับสำนักงานที่ดิน สาขาสารภี ต.หนองผึ้ง อ.สารภี ในวันที่ 16 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา โดยยืนยันว่าไม่ได้เป็นผู้ดำเนินการมอบอำนาจให้แก่ผู้ใดไปดำเนินการแทนแต่อย่างใด เหตุดังกล่าวทำให้เกิดความเสียหาย จึงขอให้สืบสวนติดตามตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายจนถึงที่สุด

นายสุทิน บุตรชาย ยังกล่าวอีกว่า อยากขอความเป็นธรรมให้พ่อที่อายุมาก ถึง 87 ปีแล้ว แต่มาเจอเหตุการณ์แบบนี้จนพ่อเครียด คิดมาก บ่นหมดอาลัย จึงอยากให้ตำรวจและสำนักงานที่ดินได้ช่วยตรวจสอบดำเนินคดีให้เร็วที่สุดก่อนที่ดินจะถูกเปลี่ยนมือไปอีก ขอให้ช่วยอายัดไว้ไม่ให้มีการซื้อขายจนกว่าจะตรวจสอบดำเนินคดีให้แล้วเสร็จก่อนเพื่อความเป็นธรรมกับพ่อของตนเองด้วย