เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2559) ที่ห้องประชุมศรีวิชัย ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช นายเจริญ โต๊ะอิแต รักษาการนายกสมาคมเครือข่ายประมงพื้นบ้านอ่าวท่าศาลา พร้อมด้วย นายวิรชัช เจะเหล็ม นายกสมาคมประมงพื้นบ้านหัวไทร นายมาโนช ดวงดี นายกสมาคมประมงชายฝั่งอำเภอปากพนัง และ กลุ่มตัวแทนชาวประมงขนาดเล็ก จาก6 อำเภอ ของจังหวัดนครศรีธรรมราช ยื่นหนังสือขอให้ยกเลิกมาตรา 34 ของพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 ต่อ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
โดยมีนายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช นายถาวรวัฒน์ คงแก้ว ปลัดจังหวัดนครศรีธรรมราช พันเอกชาญวิทย์ ปิ่นมณี รอง ผอ.กอ.รมน.จว.นศ.ฝ่ายทหาร และ นายธีระพงศ์ ไกรนรา รักษาราชการแทนประมงจังหวัดนครศรีธรรมราช ร่วมรับหนังสือจากตัวแทนเครือข่ายประมงพื้นบ้านจังหวัดนครศรีธรรมราชและชี้แจงข้อเท็จจริง
เจริญ โต๊ะอิแต รักษาการนายกสมาคมเครือข่ายประมงพื้นบ้านอ่าวท่าศาลา กล่าวว่า ด้วยพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 ที่รัฐบาลประกาศใช้แทนพระราชบัญญัติการประมง พ.ศ. 2558 เดิม มีบทกำหนดมาตรา 34 “ห้ามชาวประมงพื้นบ้าน ทำการประมงในเขตทะเล นอกชายฝั่ง” ซึ่งสร้างผลกระทบความเดือดร้อนและเป็นการกำจัดสิทธิ ของชาวประมงขนาดเล็กของประเทศ (เรือประมงขนาดระวางต่ำกว่า 10 ตันกรอส) ซึ่งมีจำนวนมากกว่า 80% ของชาวประมงทั้งหมด ไม่สามารถออกทำการประมงได้ตามปกติ
ทั้งที่การทำการประมงขนาดเล็กในเขตทะเลนอกชายฝั่งเป็นการทำประมงที่ไม่ไดละเมิดต่อบุคคลอื่น ไม่ได้มีผลกระทบต่อทรัพยากรส่วนรวมของประเทศ มิหนำซ้ำยังเป็นผู้ผลิตสินค้าประมงชั้นดี แก่ประเทศอีกด้วย อีกทั้งหากชาวประมงพื้นบ้านที่มีจำนวนกว่าร้อยละ 80 ของประเทศชาวประมงทะเลทั้งหมดถูกบังคับ ให้ทำการประมงได้เฉพาะที่แคบ ๆ ในชายฝั่งทะเลจะเกิดการแย่งชิงทรัพยากรสัตว์น้ำ สร้างความขัดแย้งระหว่างชาวประมงกันเอง ไม่เป็นผลดีต่อการประมงที่ยั่งยืน และที่สำคัญเป็นมาตรการที่ไม่เป็นธรรม อย่างยิ่งต่อชาวประมงพื้นบ้านรายย่อย ที่ถูกจำกัดพื้นที่ทำประมงเหลือน้อยมาก
ในขณะที่ให้สิทธิชาวประมงพาณิชย์ (ซึ่งมีประชากรที่ได้ประโยชน์น้อย) เป็นผู้ประกอบการที่ไม่ได้ทำการประมงด้วยตนเอง แต่ได้สิทธิทำการประมงพื้นที่ตั้งแต่ 3 ไมล์ทะเล ไปจนสุดเขตเศรษฐกิจจำเพาะ (ประมาณ 200 ไมล์ทะเล) หรือ สิทธิทำการประมงของประเทศ แล้วแต่เขตใดจะไกลกว่า ซึ่งพวกตนชาวประมงขนาดเล็กใน 6 อำเภอ ของจังหวัดนครศรีธรรมราช จะได้รับความเดือดร้อนจากมาตราดังกล่าว ดังนั้น แก้ไขปัญหาความเดือดร้อน จึงขอเสนอให้รัฐบาล ได้พิจารณายกเลิกมาตรา 34 ของพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 เพื่ออนุญาตให้ชาวประมงพื้นบ้านเรือประมงขนาดเล็กของประเทศไทย สามารถออกทำประมงได้ในเขตทะเลนอกชายฝั่งได้เช่นเดิม
นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า รัฐบาลมีความเห็นใจชาวประมง แต่ก็มีต่างประเทศ ทั้ง IUU และ EU คอยจับตาอยู่โดยกล่าวหาว่าทำประมงผิดกฎหมายบ้าง ค้ามนุษย์บ้าง จึงมีความจำเป็นต้องแก้ไขกฎหมายประมงให้ได้มาตรฐานสากล อย่างไรก็ตามจังหวัดจะได้ส่งหนังสือข้อเรียกร้องของพี่น้องชาวประมงพื้นบ้านไปให้รัฐบาลต่อไป.