เมื่อเวลา 21.00 น.วันที่ 14 เมษายน พ.ต.ต.จรูญ สังขารา สารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองตรัง รับแจ้งเหตุมีคนถูกไล่ยิงได้รับบาดเจ็บ วิ่งหนีเข้ามาหลบอยู่ในร้านขายของชำภายในหมู่บ้าน ตั้งอยู่เลขที่ 96/5 ม.1 บ้านลานควาย ซอย 11 ต.บ้านโพธิ์ อ.เมืองตรัง หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วย พ.ต.ท.เมธี จันทร์งาม รอง ผกก.สส. พ.ต.ต.ทินกร มณีรัตน์ สว.สส. ร.ต.ท.การุญ จันทร์แสง หน.ป้อมตรวจ ต.บ้านโพธิ์ และกำลังชุดสืบสวน ชุดสายตรวจฯ ก่อนแจ้งประสาน นายศิริชัย ชัยเพชร หรือกำนันบ๊อบ ต.บ้านโพธิ์ หน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลสถานตรัง รุดไปตรวจสอบตามที่ได้รับแจ้ง
เมื่อไปถึงพบเจ้าของบ้าน ทราบชื่อ นายดำ ฉิมแก้ว อายุ 49 ปี ให้การว่า ขณะกำลังนอนดูทีวีอยู่ในร้านได้มีชายวัยกลางคน วิ่งหน้าตาตื่นตกใจเข้ามาหลบอยู่ในร้าน ขอความช่วยเหลือว่าถูกกลุ่มวัยรุ่นประมาณ 4-5 คน ใช้อาวุธปืนไล่ยิงเข้ามาหลบในร้านก่อนโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบชื่อภายหลัง คือ นายชัยธวัช แก้วเกตุ อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 137/5 ม.3 ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.ตรัง พบมีร่องรอยบาดแผลมีเลือดจากการถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบชนิดเข้าตรงเอว 4 รู และพบว่าสักยันต์พญาหนุมานเต็มแผ่นหลัง เชื่อว่าทำให้รอดตายมาได้ จากนั้นได้นำตัวส่งไปยัง รพ.ตรัง
ขณะที่แนวทางการสืบสวนสอบสวน ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้บาดเจ็บได้นั่งซ้อนท้ายรถ จยย.มากับนายลา (ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง) ระหว่างทางขับมาถึงจุดเปลี่ยวภายในซอย 11 ต.บ้านโพธิ์ ได้มีกลุ่มวัยรุ่นประมาณ 4-5 คน กรูเข้ามาใช้อาวุธปืนกราดยิง ก่อนที่จะวิ่งหลบห่ากระสุนเข้ามาหลบภายในร้านชำซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 200 เมตรจึงรอดตายมาได้ จากนั้นได้โทรศัพท์หาผู้เป็นแม่ คือนางสมพร แก้วเกศ อายุ 45 ปี ว่าตนเองโดนยิง นางสมพรผู้เป็นแม่จึงได้มาที่เกิดเหตุ ขณะที่แม่ได้ขอร้องให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยดำเนินคดีจับกุมลูกชายตัวเองเข้าคุก เพราะถ้ายังปล่อยให้ลอยนวลต้องโดนคู่อริฆ่าตาย เพราะปีหน้าลูกชายตนเองต้องเกณฑ์ทหารแล้ว
และเมื่อตรวจสอบค้นประวัติพบว่าหลบหนีหมายจับคดีพยายามฆ่า สภ.เมืองตรัง และไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง ซึ่งเมื่อวานนี้ซึ่งเป็นวันสงกรานต์ทราบจากชาวบ้านในพื้นที่ว่านายชัยธวัช กับพวกได้ขับรถ จยย.โชว์อาวุธปืนบริเวณจุดสาดน้ำภายในหมู่บ้าน พร้อมท้าทายวัยรุ่นที่กำลังเล่นน้ำสงกรานต์อยู่หลายรอบ กระทั่งมาถูกดักยิงกลางทาง เชื่อว่าคงถูกวัยรุ่นที่ไม่พอใจตามมาล้างแค้นที่ถูกเยาะเย้ยก่อนหน้านี้
ส่วนสาเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานน่าจะเป็นคู่อริเก่าตามล้างแค้น แต่ยังไม่ตัดทิ้งประเด็นหักกันเรื่องผลประโยชน์ธุรกิจไม่เปิดเผย อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่จะเร่งสืบสวนสอบสวนเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานหาเบาะแสคนร้ายจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
