หัวหน้าอุทยานฯหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ปัดตอบคำถามกรณีแจ้งจับเจ้าหน้าที่ตัวเอง ข้อหาฉ้อโกง นำตั๋วมาเวียนขายซ้ำ ห้นักท่องเที่ยว ทำรัฐเสียหาย โบ้ยให้ไปถามอธิบดีกรมอุทยานฯ ระบุตนไม่มีหน้าที่ให้ข่าว ด้านกำนันอ่าวนางชี้หัวหน้าอุทยานฯไม่สมควรอยู่ในพื้นที่กระบี่
จากกรณีที่นายศรายุทธ ตันเถียร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ ได้แจ้งความจับนายชัยณรงค์ ปาทาน อายุ 44 ปี เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ทำหน้าที่ประจำหน่วยพิทักษ์อุทยานที่เกาะปอดะ ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ ในข้อหาฉ้อโกงทำให้รัฐเสียหาย พร้อมหลักฐานเป็นตั๋วบัตรเข้าเที่ยวอุทยานฯ จำนวน 4 ใบ เป็นเงิน 1,600 บาท เบื้องต้นเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวยอมรับว่าได้ทำจริง ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 18 เมษายน ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่สำนักงานอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี แต่ไม่พบตัว จึงได้ติดต่อทางโทรศัพท์สอบถามไปยังนายศรายุทธ ตันเถียร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ เพื่อจะสอบถามว่าหลังจากที่ได้แจ้งจับเจ้าหน้าที่ตัวเองแล้ว ในส่วนของอุทยานหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จะดำเนินการอย่างไรต่อไปกับเจ้าหน้าที่รายดังกล่าว แต่ขณะที่ผู้สื่อข่าวแนะนำตัวทางนายศรายุทธก็ได้พูดว่า “คุณออกข่าวไปแล้ว ผมไม่มีหน้าที่ให้ข่าว ให้ไปถามอธิบดีกรมอุทยานฯ” แล้วก็ได้ตัดสายไป
ด้านนายธีระศักดิ์ ขนานใต้ กำนันตำบลอ่าวนาง กล่าวว่า ตนยืนยันคำเดิมว่าที่ผ่านมามีการทำลักษณะดังกล่าวมาตลอด คือมีการเวียนขายตั๋วจริง แต่จับไม่ได้ไล่ไม่ทัน ไม่มีหลักฐานไปยืนยัน ทางอุทยานฯจึงปฏิเสธมาตลอดว่าไม่มีการเวียนขายตั๋วซ้ำอย่างแน่นอน แต่ในเมื่อผู้ประกอบการและนักท่องเที่ยวร้องเรียนเอง ทางอุทยานฯคงจะจำใจต้องจับเจ้าหน้าที่ของตัวเอง ซึ่งหัวหน้าอุทยานฯสมควรจะย้ายให้ไปอยู่ที่อื่น และหาคนที่มีความบริสุทธิ์ยุติธรรมเข้ามาทำงานแทน
“หลังจากที่มีการจับเจ้าหน้าที่ของตัวเอง ทางอุทยานฯก็พยายามกลบข่าวด้วยการออกไปกวดขันไล่จับเรือนำเที่ยวที่เข้าไปในเขตอุทยานหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จนเดือดร้อนไปทั่ว ซึ่งคนเป็นเจ้าหน้าที่รัฐและเป็นถึงระดับหัวหน้า ควรที่จะเห็นอกเห็นใจชาวบ้านด้วย ไม่ใช่อะไรก็จับและพูดจาข่มขู่ไปหมด” นายธีระศักดิ์กล่าว
ร.ต.ท.ทรงพล บุญชัย รอง สว.สอบสวน สภ.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ (เจ้าของคดี) กล่าวว่า ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เบื้องต้นได้สอบปากคำนายชัยณรงค์ ปาทาน เจ้าหน้าที่อุทยานฯไปแล้ว แต่ยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหา และได้ปล่อยตัวไปชั่วคราว หลังจากนี้ก็จะทำการรวบรวมพยานหลักฐานและสอบปากคำผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเพิ่มเติมก่อนที่จะเรียกตัวนายชัยณรงค์มารับทราบข้อกล่าวหาต่อไป ส่วนจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน แต่ในเบื้องต้น ทางอุทยานฯได้แจ้งข้อหา ฉ้อโกง หลอกลวงนักท่องเที่ยวทำให้รัฐเสียหายอยู่แล้ว
