หนุ่มหิ้วถังอสุจิข้ามพรมแดน ยื่นความจำนงขอระงับคดี ล่าสุดส่งอสุจิให้สาธารณสุขขยายผลต่อ

ความคืบหน้ากรณีเจ้าหน้าที่ศุลกากรหนองคายจับกุมนายนิธินนทน์ ศรีธานิยานันท์ อายุ 25 ปี พร้อมของกลางถังไนโตรเจน 1 ถัง ภายในบรรจุหลอดใส่อสุจิ 6 หลอด เป็นอสุจิของชาวจีนและชาวเวียดนาม โดยจับกุมได้ขณะกำลังจะเดินทางออกนอกประเทศ ณ ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว จ.หนองคาย ซึ่งเป็นการกระทำผิด พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ พ.ศ.2558 มาตรา 41 ห้ามมิให้ผู้ใดซื้อ เสนอซื้อ ขาย นำเข้า ส่งออก ซึ่งอสุจิ ไข่ หรือตัวอ่อน อัตราโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และ พ.ร.บ.ศุลกากร ในการนำของต้องห้ามออกนอกราชอาณาจักร จำคุก 10 ปี ปรับ 4 เท่าราคาของรวมค่าอากร หรือทั้งจำทั้งปรับ หลังจากนั้นนายด่านศุลกากรหนองคายได้ส่งมอบของกลางให้กับนายพิชิต ลีลาศ นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ เจ้าหน้าที่ด่านอาหารและยาประจำสะพานมิตรภาพไทย-ลาว

นายนิมิตร แสงอำไพ นายด่านศุลกากรหนองคาย กล่าวว่า ผู้ต้องหาได้ยื่นความจำนงขอระงับคดีในชั้นศุลกากรงดการฟ้องร้อง ซึ่งหลังจากดูข้อกฎหมายแล้วก็เห็นว่าการระงับคดีจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด โดยปรับเป็นเงิน 2 แสนบาท ยกเว้นโทษจำคุกไม่ต้องส่งอัยการหรือศาลให้พิจารณาลงโทษ เนื่องจากทางสาธารณสุขก็พร้อมที่จะดำเนินการต่อ ในการขยายผลไม่ให้มีขบวนการค้ามนุษย์ ค้าอสุจิ ไข่ หรือตัวอ่อนอีกต่อไป โดยจะมีการทำงานร่วมกัน ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุขก็จะขยายผลในส่วนกลางต่อไป

เบื้องต้นตรวจสอบด้านกฎหมายของ สปป.ลาว ยังไม่มีกฎหมายห้ามในการดำเนินการดังกล่าว แต่ในด้าน พ.ร.บ.ศุลกากร ไทยกับลาวใช้กฎหมายเหมือนกันในการนำเข้าส่งออกสินค้าทุกชนิด ซึ่งการลักลอบนำออกนอกประเทศนี้ถือว่าผิดกฎหมาย โดยผู้ต้องหายอมรับสารภาพว่าเป็นการลักลอบนำเข้าประเทศลาว จากการตรวจสอบคาดว่าน่าจะมีเพียงขบวนการกลุ่มนี้เพียงกลุ่มเดียว ซึ่งผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมครั้งนี้ได้มีการเดินทางข้ามไปกัมพูชาและ สปป.ลาว ส่วนบุคคลอื่นยังไม่เคยมีประวัติ ซึ่งทางศุลกากรได้ส่งของกลางพร้อมมอบข้อมูลทั้งหมดให้กับสาธารณสุข เพื่อจะได้เป็นข้อมูลในการขยายผลและเชื่อมโยงขบวนการ

Advertisement

ทางด้านนายพิชิต ลีลาศ กล่าวว่า ตนจะนำของกลางพร้อมเอกสารหลักฐานต่างๆ ส่งให้กับนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดหนองคายไปดำเนินการตามข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อขยายผลทั้งกับเจ้าหน้าที่และผู้ประกอบวิชาชีพ รวมไปถึงสถานประกอบการว่าได้มีการขออนุญาตถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ซึ่งส่วนกลางจะเป็นผู้ดำเนินการในเรื่องรายละเอียดตามข้อกฎหมาย โดยใช้ฐานข้อมูลของด่านศุลกากรหนองคายในการขยายผลต่อไป

ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้ไปตรวจสอบที่คลินิกแห่งหนึ่งในนครหลวงเวียงจันทน์ (VIP คลินิก) ซึ่งเป็นคลินิกที่นายนิธินนทน์นำถังบรรจุอสุจิมาส่งเพื่อทำการอุ้มบุญนั้น พบว่าเป็นอาคาร 2 ชั้น 2 คูหา ตั้งอยู่บนถนนเต้ 4 บ้านดอนกลอย นครหลวงเวียงจันทน์ มีการติดป้ายด้านหน้าข้อความภาษาลาวว่า “ศูนย์การแพทย์ปิ้นปัวภาวะมีลูกยาก” (ศูนย์การแพทย์รักษาภาวะมีลูกยาก) โดยยังมีการเปิดให้บริการตามปกติ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image