เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ขอความร่วมมือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ที่มีอาคารสถานีรถไฟเก่าตั้งอยู่ในเส้นทางของโครงการรถไฟทางคู่ ชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น จำนวน 7 สถานี ที่ยังไม่ถูกรื้อถอน ระดมทุนอนุรักษ์สถานีฯ เพื่อธำรงรักษาสถาปัตยกรรมผังเมืองและมรดกของชาติ รวมทั้งเป็นสมบัติของชุมชนในท้องถิ่น มิเช่นนั้นผู้รับจ้างจะดำเนินการรื้อถอนให้แล้วเสร็จภายในเดือนพฤษภาคมนี้
ผวจ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า ได้รับการประสานจากนายประเสริฐ อัตตะนันทน์ รองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ฐานะดูแลรับผิดชอบหน่วยธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน แจ้งว่า รฟท.สนับสนุนให้ จ.นครราชสีมา อนุรักษ์อาคารสถานีรถไฟหลังเก่าไว้ โดยยินดีมอบให้ตามที่ต้องการ หากพื้นที่ตั้งใหม่อยู่ในรัศมีไม่เกิน 100 เมตร สามารถดำเนินการทางเทคนิคยกตัวอาคารไปตั้งในสภาพเดิมและ รฟท.ยกให้ฟรี นอกเงื่อนไขนี้ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการรื้อถอน เฉลี่ยสถานีละ 1.5 แสนบาท ตนได้สั่งการให้ อปท.จัดส่งนายช่างโยธา ลงพื้นที่ร่วมกับตัวแทน รฟท. หรือผู้รับจ้าง สำรวจพื้นที่ จัดเก็บข้อมูลทั้งถ่ายภาพและบันทึกสิ่งปลูกสร้างอย่างละเอียด เพื่อให้การประกอบขึ้นใหม่มีความสมบูรณ์ที่สุด อย่างไรก็ตาม ตนในฐานะตัวแทนทุกภาคส่วนใน จ.นครราชสีมา ขอขอบคุณผู้บริหาร รฟท. ที่มีมติเห็นชอบกับแนวทางอนุรักษ์ฯ โดยอาคารฯยังคงเป็นทรัพย์สินของ รฟท.เหมือนเดิม แต่ อปท.ดูแลรักษา เพื่อให้ชาวบ้านได้ใช้ประโยชน์ทางสาธารณะต่อไป
ที่ห้องประชุมสภาองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) โนนทองหลาง อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 9 พฤษภาคม นายโยธิน วิทยาวิโรจน์ นายก อบต.โนนทองหลาง พร้อมสมาชิกสภา ฯ และชาวบ้านร่วมประชุมหารือการอนุรักษ์อาคารสถานีรถไฟโนนทองหลาง โดยชุมชนตามแนวทางประชารัฐและธำรงรักษาสถาปัตยกรรมผังเมืองและมรดกของชาติ โดยมีนายประพัทธพงศ์ พราหมณี นายอำเภอบัวใหญ่ นายแพทย์สุทิน ภู่มาก ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) โนนทองหลาง เป็นสักขีพยาน โดยมีมติเห็นชอบแนวทางอนุรักษ์อาคารสถานีฯ อายุ 63 ปี ขั้นตอนต่อไป เจ้าหน้าที่กองช่าง อบต.ฯ จะหารือกับบริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) เพื่อร่วมดำเนินการทางเทคนิคยกตัวอาคารไปติดตั้งในพื้นที่ของ รพ.สต.โนนทองหลาง ที่ห่างจากจุดเดิมประมาณ 50 เมตร เบื้องต้น รฟท.ยกให้และไม่คิดค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด อบต.โนนทองหลาง จึงขอขอบคุณในการเอื้อเฟื้อครั้งนี้
ด้าน นพ.สุทินกล่าวว่า ได้หารือกับผู้บังคับบัญชา เพื่อใช้ประโยชน์อาคารแห่งนี้ ให้เป็นสถานที่รักษาแพทย์ทางเลือก ซึ่งมีการนวดแผนไทยและแหล่งเรียนรู้พืชสมุนไพรไทย รวมทั้งเป็นแลนด์มาร์คท้องถิ่น ทั้งเป็นพิพิธภัณฑ์ชุมชนและการรำลึกถึงประวัติศาสตร์การคมนาคม
