ตร.นครพนมค้านประกันนายทุนเงินกู้ดอกเบี้ยโหด พบผู้เสียหายแห่แจ้งความ 17 ราย

เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณี พล.ต.ต.สุวิชาญ ญาณกิตติกุล ผู้บังคับการตำรวจนครพนม ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.อุกกฤษฏ์ ทรงชัยสงวน ผกก.เมืองนครพนม เร่งสอบสวนดำเนินคดีที่ชาวบ้านเข้าแจ้งความร้องทุกข์ ปัญหานายทุนเงินกู้ดอกเบี้ยโหด พร้อมมีการออกหมายจับ นางสาวสุพิชญ์ฌา อภิชัจฐ์โภคิน อายุ 56 ปี ซึ่งเป็นนายทุนเงินกู้รายใหญ่ และเป็นเจ้าของกิจการโชว์รูมจำหน่ายรถจักรยานยนต์ รายใหญ่ของ จ.นครพนม ที่มีสาขาจำนวนมากในพื้นที่ภาคอีสาน ในข้อหากระทำความผิดร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและให้บุคคลอื่นยืมเงินโดยคิดอัตราดอกเบี้ย เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด และปลอมแปลงเอกสารสิทธิ

โดยน.ส.สุพิชญ์ฌา ได้เข้ามอบตัว ที่ สภ.เมืองนครพนม เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2560 ที่ผ่านมา พร้อมให้การปฏิเสธในเบื้องต้น ยืนยันว่าดำเนินการปล่อยกู้ตามกฎหมาย ไม่ได้เอารัดเอาเปรียบลูกหนี้ ซึ่งอยู่ระหว่างการสอบสวนดำเนินคดี เบื้องต้นในชั้นพนักงานสอบสวนทางตำรวจคัดค้านการประกันตัว และจะมีการนำไปฝากขังผัดแรกในวันนี้ นอกจากนี้ทางตำรวจยังได้เข้าตรวจค้น หาเอกสารหลักฐานเพิ่มเติม ในโชว์รูมขายรถจักรยานยนต์ ในเขตเทศบาลเมืองนครพนม จำนวน 3 แห่ง พร้อมนำเอกสารหลักฐาน เกี่ยวกับการปล่อยกู้ไปตรวจสอบ ประกอบการดำเนินคดี

โดยการจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายเหยื่อนายทุนเงินกู้หลายราย ได้เข้าร้องเรียนกับ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานเกี่ยวข้อง ว่าถูกเอารัดเอาเปรียบจากการปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยโหด เกินกฎหมายกำหนด โดยผู้เสียหายรายสำคัญ คือ นางรัดดาวัลย์ คำบุญ อายุ 65 ปี อยู่ต.นาถ่อน อ.เมือง จ.นครพนม ที่นำโฉนดที่ดิน เข้าไปจำนอง ตั้งแต่ปี 2545 เป็นเงินจำนวน 1.5 แสนบาท แต่ทำสัญญาจริง 2 แสนบาท และมีการคิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อเดือน แต่ในสัญญาจะระบุไว้ตามกฎหมาย คือ ร้อยละ 15 ต่อปี หลังผิดสัญญาไม่ชำระ จึงถูกฟ้องร้องดำเนินคดี จนโฉนดที่ดิน พร้อมบ้าน ถูกบังคับคดีขายทอดตลาด

เหยื่อนายทุน ต้องการเรียกร้องให้หน่วยงานภาครัฐออกมาช่วยเหลือ เพื่อขอผ่อนผัน เนื่องจากไม่มีบ้านพักอาศัย และมีการต่อสู้คดีมานานเกือบ 15 ปี ไม่มีหน่วยงานเข้ามาดูแล จนกระทั่งได้ออกมาร้องทุกข์ผ่านสื่อ ร่วมกับผู้เสียหายรายอื่น เนื่องจากบ้านและที่ดิน จะขายทอดตลอดในวันที่ 15 มิถุนายน 2560

Advertisement

ล่าสุดพบว่ามีผู้เสียหาย เข้าแจ้ง ความร้องทุกข์ที่ สภ.เมืองนครพนม กล่าวหานายทุนรายเดียวกันแล้ว 17 ราย คาดว่าจะมีผู้เสียหายเข้ามาร้องทุกข์ต่อเนื่องหลังการจับกุม

เบื้องต้น จากการตรวจสอบข้อมูลยังพบว่า ในพื้นที่ จ.นครพนม ยังมีลูกหนี้นอกระบบอีกหลายรายที่ได้รับความเดือดร้อน จากปัญหาการนำที่ดิน ทรัพย์สินไปจำนอง กับนายทุนรายใหญ่คนเดียวกัน ของ จ.นครพนม จนต้องมีการถูกฟ้องร้องดำเนินคดี ถูกยึดทรัพย์สิน เพราะนายทุนจะมีการทำสัญญาแบบรัดกุม แต่จะใช้วิธีการลงรายละเอียดในสัญญาเกี่ยวกับดอกเบี้ยถูกต้องตามกฎหมาย หรือประมาณร้อยละ 15 ต่อปี แต่จะมีการหักต้น ล่วงหน้า และเก็บดอกเบี้ยโหดนอกเหนือจากสัญญา ประมาณร้อยละ 3 – 5 ต่อเดือน อีกทั้งยังฉวยโอกาสยึดเอาทรัพย์สินทันทีหากขาดส่ง หรือผิดสัญญา โดยไม่มีการต่อรอง และที่ผ่านมาในการเรียกร้องขอความเป็นธรรม รวมถึงการต่อสู้คดี ส่วนใหญ่เหยื่อเงินกู้จะแพ้คดี เพราะมีการจัดทำเอกสารแบบรัดกุม

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image