เมื่อวันที่ 3 มีนาคม ผู้สื่อข่าวมติชน รายงานว่า พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หรือหลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม นายศุภภัทร์พจน์ นอติศศธร ไวยาวัจกร พร้อมพระสงฆ์ และเด็กวัดช่วยกันเข็นรถยนต์แพนเธอร์ จากัวร์ สีดำ หมายเลขทะเบียน กก1177 กรุงเทพมหานคร หลังจาก พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ พร้อมเจ้าหน้าที่นิติวิทยาศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญรถยนต์จากัวร์ และผู้เชี่ยวชาญแพนเธอร์ เข้าตรวจสอบกายภาพรถยนต์คันดังกล่าวเป็นรอบที่ 2 เมื่อวันที่ 2 มีนาคม แล้วนั้น มาจอดโชว์ไว้ที่หน้าห้องส้วมหรู ที่อยู่หลังเมรุวัดไผ่ล้อม โดยมีพรมแดงปูรองอย่างดี เพื่อให้ประชาชนที่เข้ามากราบไหว้สังขารหลวงพ่อพูล และมาร่วมพิธีสวดเสริมบารมี สวดเสริมพลังดาวนพเคราะห์ เจิมแป้งนะเมตตา และลงนะเมตตาทองคำเปลว 100% โดยพระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หรือหลวงพี่น้ำฝน ได้เข้าชม และถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก
“อาจจะมีบางคนมองว่าทำไม อาตมาเป็นพระสงฆ์ถึงต้องสะสมทรัพย์สินราคาแพงๆ นั้นคงจะไปห้ามมุมมองของคนไม่ได้ ต้องเคารพการตัดสินใจของคน แต่สิ่งสำคัญคือ เรานั้นเป็นพระสงฆ์ประเภทสะสมทรัพย์สินมากมายเหมือนที่ถูกกล่าวหาหรือไม่เท่านั้น อาตมาสะสมทรัพย์สินมูลค่ามากในวัด อาทิ โบสถ์เฉลิมพระเกียรติ ปี 2543 มูลค่าก่อสร้างสมัยนั้น 40 กว่าล้านบาท เมรุปลอดมลพิษ 45 ล้านบาท ส้วมหรูราคากว่า 4 ล้านบาทและกำลังระดมทุนกว่า 100 ล้านบาทเพื่อสร้างวิหารหลวงพ่อพูล เหล่านี้ต่างหากที่ อาตมานิยมสะสม สะสมเพื่อใคร หากไม่ใช่เพื่อจรรโลงพระพุทธศาสนา เพื่อเป็นสมบัติของวัดไผ่ล้อม เป็นหน้าตาของคนไผ่ล้อม คนนครปฐม และยังไม่รวมสาธารณกุศลต่างๆ ไม่ว่าจะโรงเรียน โรงพยาบาล และกิจการตำรวจจังหวัดนครปฐม ซึ่งอาตมาภาคภูมิใจมากกว่าเรื่องการมีรถยนต์เจ้าปัญหา และบอกเลยว่าห้องส้วมหรูหลังนี้มูลค่าการก่อสร้างและตกแต่งมากกว่ารถยนต์บ้าบอคันนี้ด้วยซ้ำ” หลวงพี่น้ำฝนกล่าว
