รายงานข่าวจากจังหวัดสงขลา เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 3 กรกฎาคม ว่าตัวแทนชาวนาในจังหวัดสงขลา ประมาณ 100 คน เดินทางมารวมตัวกันที่หน้าศาลากลางจังหวัดสงขลา ในช่วงสายวันนี้ เพื่อร่วมกันยื่นข้อเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งจ่ายเงินช่วยเหลือชาวนา ถึงพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยนายถาวร แซ่อิ้ว ประธานชมรมชาวนาจังหวัดสงขลา นายกาจบัณฑิต รามมาก รองประธานสมาพันธ์เกษตรกรจังหวัดสงขลา เป็นตัวแทนชาวนายื่นหนังสือข้อเรียกร้อง ผ่านนายรุ่งโรจน์ และสุบ ผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสงขลาเรียกร้องกรณีที่รัฐบาลได้มีโครงการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวไร่ละ 1,000 บาท โครงการช่วยเหลือการเก็บเกี่ยวข้าวไร่ละ 1,200 บาท และโครงการเยียวยาช่วยเหลือชาวนาผู้ประสบอุทกภัยครัวเรือนละ 3,000 บาท แต่ปรากฏว่าเวลาล่วงเลยมานานแล้ว นับจากเดือนกุมภาพันธ์จนถึงขณะนี้ชาวนายังไม่ได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลตามโครงการดังกล่าวแต่อย่างใด โดยในจังหวัดสงขลานั้น ยังมีเกษตรกรที่ไม่ได้รับเงินจำนวนดังกล่าวรวม 1,797 ราย และทั่วภาคใต้กว่า 30,000 ราย โดยภายหลังจากได้รับมอบหนังสือแล้ว ได้เชิญตัวแทนชาวนาเข้าร่วมหารือ เพื่อชี้แจงถึงขั้นตอนและปัญหาความล่าช้า โดยขณะนี้ยังอยู่ระหว่างรอมติที่ประชุม ครม. ซึ่งยังไม่ชัดเจนว่าจะมีการนำเรื่องของชาวนาเข้าที่ประชุมเมื่อไหร่
นายถาวรกล่าวว่า ความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นนั้น ชาวนาได้รอคำตอบ ในการช่วยเหลือมานาน 6 เดือน ไม่มีคำตอบที่ชัดเจน จึงจำเป็นต้องให้ชาวนาที่ได้รับความเดือดร้อน ร่วมกันเดินทางมายื่นข้อเรียกร้อง เพื่อขอให้นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้หน่วยงานที่รับผิดชอบและเกี่ยวข้องได้เร่งดำเนินการช่วยเหลือชาวนาโดยเร่งด่วน ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเยียวยาและบรรเทาความเดือดร้อนให้ชาวนาต่อไป และจะต้องมีคำตอบที่ชัดเจนภายใน 15 วัน แต่หากไม่มีความชัดเจนก็คงจะต้องมีการประสานกับชมรมชาวนาทั่วภาคใต้ เพื่อเคลื่อนไหวร่วมกัน ด้วยการบุกศาลากลางทุกจังหวัด เพื่อให้เร่งรัดความช่วยเหลือ แต่หากยังไม่ชัดเจนก็คงต้องเดินทางเข้าพบนายกรัฐมนตรี โดยก่อนหน้านี้ได้มีการประสานกับหน่วยเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นสำนักงานเกษตรจังหวัด ธ.ก.ส. สำนักงานเกษตรและสหกรณ์ มาอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ไม่มีคำตอบที่ชัดเจน อ้างว่าต้องรอมติ ครม.เพียงอย่างเดียว จึงจะดำเนินการใดได้ ดังนั้น จึงต้องขอเร่งรัดให้มีการนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุม ครม.โดยเร็ว
นายกาจบัณฑิตกล่าวว่า เกษตรกรได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เพราะเงินทั้ง 3 โครงการในการช่วยเหลือเกษตรกรนั้น รวมประมาณ 2 หมื่นบาท ต่อราย ซึ่งจะทำให้ชาวนานำไปใช้ประโยชน์ได้ ทั้งการชำระหนี้ ธ.ก.ส. หรือการใช้จ่ายอื่นๆ ในการลงทุนทำนาและเก็บเกี่ยวกันอีกครั้ง แต่เมื่อเงินในส่วนนี้ยังไม่ได้รับ ในขณะนี้ อีกส่วนหนึ่งได้รับไปก่อนหน้านี้แล้ว ทำให้ชาวนามีความกังวลต่อปัญหานี้ เมื่อทวงถามไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก็มีคำตอบบอกเพียงว่าต้องรอมติ ครม. โดยไม่มีความหวังว่าจะได้รับเงินส่วนนี้เมื่อไหร่ จึงต้องเดินทางมาทวงถามกันที่ศาลากลางจังหวัดสงขลาในวันนี้ โดยมองว่าการที่จะเร่งรัดให้นำเรื่องใดๆ เข้าสู่ที่ประชุม ครม. ผู้ว่าราชการจังหวัดเองก็ต้องมีบทบาทที่สำคัญในการนำเสนอเรื่องไปถึง และให้ความสำคัญกับปัญหาปากท้องของชาวนาอย่างแท้จริง
