ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้โอนย้ายเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ของสำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) ไปสังกัดองค์การสวนสัตว์ และศูนย์ประชุมแสดงสินค้านานาชาติ เฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา ไปสังกัดกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง เมื่อวันที่ 20 มิถุนายนที่ผ่านมา ตามที่นำเสนอไปตามลำดับแล้วนั้น
เมื่อวันที่ 3 กรกฏาคม นางเนตรนภา สุทธิธรรมดำรง ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) ในฐานะกรรมการและเลขานุการคณะกรรมการบริหารสำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) หรือบอร์ด เผยกรณีที่ พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รักษาราชการแทนอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ และโฆษก ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เยี่ยมชมกิจการไนท์ซาฟารี เมื่อวันที่ 2 กรกฏาคมที่ผ่านมา ว่า พล.ท.สรรเสริญ มาเยี่ยมชมไนท์ซาฟารีเป็นครั้งแรก ระหว่างเดินทางมาเป็น ประธานเปิดงานดนตรีในส่วน ของกรมประชาสัมพันธ์ บริเวณพระบรมราชานุสาวรีย์สามกษัตริย์ อ.เมืองเชียงใหม่ ซึ่งเดินทางมากับเจ้าหน้าที่กว่า 20 คน เพื่อมาดูการทำงาน และให้กำลังเจ้าหน้าที่ไนท์ซาฟารี กว่า 200 คน แต่ไม่ได้พูดถึงมติ ครม.ที่ให้โอนย้านไนท์ซาฟารี กับศูนย์ประชุม ไปสังกัดหน่วยงานอื่น ซึ่ง พล.ท.สรรเสริญ พร้อมคณะ นั่งรถรางชมไนท์ซาฟารี และให้อาหารยีราฟ นานกว่า 1 ชั่วโมง
“พล.ท.สรรเสริญ ได้พูดถึงสำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) กรณีที่มีหน่วยงานดูแลถึง 4 หน่วยงาน คือ ไนท์ซาฟารี ศูนย์ประชุม พิงคนคร และสำนักงานบริหารพื้นที่พิเศษ ที่มีเจ้าหน้าที่ดูแลกว่า 70 คน ซึ่ง ครม.ไม่ได้มีมติโอนย้ายพิงคนคร และสำนักงานบริหารพื้นที่พิเศษ อีก 2 หน่วยงานไปสังกัดหน่วยงานอื่น
พล.ท.สรรเสริญ จึงโทรศัพท์สอบถามไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าจะให้ดำเนินการอย่างไร พร้อมเร่งรัดการโอนย้ายไนท์ซาฟารีกับศูนย์ประชุม ตาม มติ ครม.เพื่อให้คณะกรรมการพัฒนาบริหารและส่งเสริมองค์การมหาชน (กพม.) ที่มีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เพื่อให้ กพม.หรือซุปเปอร์บอร์ด พิจารณาพร้อมสั่งการแนวทางการโอนย้ายหน่วยงานที่พิงคนครดูแลทั้งหมด ไปในทิศทางไหน เพื่อความชัดเจนในการปฏิบัติของผู้บริหารและเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง” นางเนตรนภา กล่าว
นางเนตรนภา กล่าวกรณีกลุ่มวิสาหกิจชุมชนอาหารสัตว์ 4 ตำบล คือ ต.สุเทพ ต.แม่เหียะ อ.เมือง ต.หนองควาย ต.บ้านปง อ.หางดง ที่มีสมาชิกกว่า 400 ครอบครัวและเครือข่ายอาหารสัตว์กว่า 100 ราย ได้ยื่นหนังสือสำนักปลัด สำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีพันธะสัญญาส่งอาหารสัตว์ให้ไนท์ซาฟารี หลังเรียกร้องรัฐบาล ไม่ให้ยกเลิกสัญญาส่งอาหารสัตว์ หากไนท์ซาฟารีโอนย้ายไปสังกัดหน่วยงานอื่น ว่า ยังไม่ทราบเรื่องดังกล่าว แต่กลุ่มวิสาหกิจชุมชน ฟ้องศาลปกครองเชียงใหม่ เพื่อขอความคุ้มครอง และคืนโควต้าส่งอาหารสัตว์ให้ไนท์ซาฟารีทั้งหมด แต่ปีนี้ทางกลุ่ม มีโควต้าส่งอาหารสัตว์ เพียง 8 ล้านบาท จากเดิม 18 ล้านบาทเท่านั้น ส่วนตัวมองว่า การส่งอาหารสัตว์ เป็นพันธะสัญญามาตั้งแต่เริ่มสร้างไนท์ซาฟารี จึงไม่น่ามีผลกระทบ หรือยกเลิกสัญญาดังกล่าว ต้องการให้ชุมชนมีส่วนร่วม สร้างงานและกระจายรายได้สู่ชุมชน ตามวัตถุประสงค์จัดตั้งโครงการดังกล่าว
ด้านนายดี จันทคลักษ์ อดีตกำนัน ต.แม่เหียะ ในฐานะประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนอาหารสัตว์ 4 ตำบล กล่าวว่า ได้ยื่นหนังสือดังกล่าว เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน ที่ผ่านมาเพื่อขอให้สำนักนายกรัฐมนตรี ตรวจสอบเรื่องดังกล่าว เนื่องจากสมาชิกและเครือข่ายได้รับผลกระทบ ทำให้กลุ่มต้องพึ่งตนเอง และเคลื่อนไหวกันเอง เพื่อให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้รับทราบถึงความเดือดร้อน ซึ่งทางสำนักนายกรัฐมนตรี ได้รับปากว่า จะส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงภายในกรกฎาคมนี้ ต่อไป