เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม ที่จ.สุราษฎร์ธานี นายอวยชัย อินทร์นาค ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า จากกรณีสื่อออนไลน์สมุยไทม์ และสื่อบางสำนักของอังกฤษ นำเสนอข่าวเหตุการณ์ น.ส.เอลิส ดัลเลอมาเน (Elise Dallemange) อายุ 30 ปี นักท่องเที่ยวสัญชาติเบลเยียม เสียชีวิตบนเกาะเต่าด้วยการผูกคอตาย และศพของนักท่องเที่ยวสาวถูกสัตว์กัดแทะกินครึ่งตัว โดยระบุว่าสาเหตุการตายเกิดจากการฆาตกรรม พร้อมกล่าวหาว่าในรอบเกาะเต่าในรอบ 3 ปีที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวถูกฆาตกรรมถึงแก่ความตายถึง 7 คนนั้น เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง เนื่องจากที่ผ่านมาระยะเวลา 3 ปี เกาะเต่ามีนักท่องเที่ยวเสียชีวิตจากการถูกฆาตกรรมเพียง 2 ราย คือ น.ส.ฮันนาห์ วิคทอเรีย และนายเดวิด วิลเลียม สองนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ ซึ่งเรื่องนี้ศาลอุทธรณ์ยืนคำพิพากษาตามศาลชั้นต้น คือ ประหารชีวิตผู้กระทำความผิด ส่วนนักท่องเที่ยวที่เสียชีวิตอีก 5 คน เกิดจากอุบัติเหตุจากการดำน้ำ นักท่องเที่ยวเมาจมน้ำในสระว่ายน้ำของรีสอร์ท และ อุบัติเหตุอื่นๆที่ไม่ใช่การฆาตกรรม
“การที่สื่อออนไลน์เสนอข่าวในลักษณะนี้ ทำให้ภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของเกาะเต่าเสียหาย จึงขอให้ชาวเกาะเต่าทุกคนช่วยกันทำความเข้าใจกับนักท่องเที่ยว และผู้อยู่ภายนอกเกาะเต่า นอกจากนี้จะให้สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานีทำการชี้แจงทางสื่อออนไลน์ และสื่อต่างๆแล้ว เพื่อสร้างภาพลักษ์การท่องเที่ยวที่ดีของเกาะเต่ากลับคืนมา” นายอวยชัย กล่าว
นายสุนทร ศรีสังข์ นายกท่องเที่ยวเกาะเต่า กล่าวอีกว่า ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวบนเกาะเต่า พร้อมดูแลนักท่องเที่ยวอย่างดีที่สุด ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ร้ายๆกับนักท่องเที่ยว
“เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นที่ไหนก็ได้ การตั้งชื่อเกาะเต่า ว่า เป็นเกาะแห่งความตาย หรือเกาะแห่งการฆาตกรรมนั้น คิดได้ยังไง เพราะมันเสียหายต่อเกาะเต่า” นายสุนทร กล่าว
ส่วนน.ส.ภัทราพร บุญสิทธิ์ ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวบนเกาะเต่า กล่าวว่า คนจะตายสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ในโลกนี้ ดังนั้นไม่ยุติธรรมเลย เมื่อเกิดเหตุขึ้นที่เกาะเต่าแล้วตั้งชื่อว่าเป็นเกาะแห่งความตาย สำหรับเกาะเต่าเป็นเกาะที่สวยงาม ติดอันดับแหล่งดำน้ำที่สวยงามติดอันดับโลก ชาวเกาะเต่าทุกคนเป็นคนที่มีน้ำใจกับนักท่องเที่ยวตลอด
(แฟ้มภาพ)
