(19 ม.ค.59) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจากที่ได้มีการนำเสนอข่าวถึงกรณี ชาวบ้านหนองบง หมู่ 5 ตำบลสุรนารี อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา มีข้อพิพาทเรื่องที่ดินทำกินกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) ตั้งแต่เมื่อปี2536 ที่ทาง มทส.นั้นได้เริ่มมีการดำเนินการก่อสร้างอาคารต่างๆทับที่ชาวบ้าน และได้เริ่มมีการขับไล่ชาวบ้านออกจากพื้นที่ ต่อมาเมื่อปี 2558 ที่ผ่านมา ได้มีการก่อสร้างรั่วล้อมรอบบริเวณที่ทำกินของชาวบ้าน จึงทำให้ชาวบ้านที่อยู่อาศัยและเคยใช้พื้นที่ดังกล่าวในการทำกินได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันนี้(19ม.ค.59)นายสุรพันธ์ ดิสสะมาน รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยถึงผลการประชุมถึงกรณีที่ดินที่มีข้อพิพาทระหว่างชาวบ้านกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี จำนวนกว่า 800 ไร่ ระหว่างชาวบ้าน และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ที่ได้มีการประชุมกับคณะทำงานตรวจสอบการถือครองสิทธิที่ดินในเขตพื้นที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ประกอบด้วย อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี , ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดนครราชสีมา , ที่ดินจังหวัดนครราชสีมา , สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่8 และคณะทำงานด้านกฎหมายกองทัพภาคที่2 เมื่อวันที่15 มกราคม 2559 ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ที่ผ่านมา
ซึ่งหลังจากการประชุมได้มีมติในที่ประชุม ทั้งสิ้น 5 ข้อ ประกอบด้วย 1.ให้สำนักทรัพยากรป่าไม้ที่8 ติดประกาศแนวป่าสงวนแห่งชาติ ให้ชัดเจนว่ามีพื้นที่ใดบ้าง , 2.ให้ทางสำนักทรัพยากรป่าไม้ที่8 ดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่ขุดดินในพื้นที่ทั้งหมด , 3.ให้ที่ดินจังหวัดนครราชสีมา ติดตามและเร่งรัดขอทราบผลการดำเนินการเพิกถอนที่ดินในพื้นที่มีข้อพิพาท หลังจากที่ได้มีการออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบ ที่ได้มีการดำเนินการส่งไปตั้งแต่เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา จากกรมที่ดินที่เป็นผู้ที่มีอำนาจในการพิจารณาในการเพิกถอนสิทธิ , 4.ให้อำเภอเมือง และท้องถิ่น อบต.แจ้งไปยังราษฎรให้นำเอกสารสิทธิที่มีผู้อ้างว่ามีการครอบครองอย่างถูกต้อง มาแสดงและมายื่นเพื่อทำการตรวจสอบสิทธิของการครอบครองที่ดินอย่างถูกต้องที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครราชสีมา เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง และข้อที่5 เมื่อมีการดำเนินการตรวจสอบสอบให้มีการประชุมติดตามผลการดำเนินการภายใน 2-3 เดือน