หนุ่มใหญ่กระโดดสะพานลงน้ำลาวสูญหาย1ราย
เมื่อวันที่ 21 กรหฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานจากกรณีฝนที่ตกอย่างต่อเนื่องส่งผลทำให้สันเขาหลายแห่งไม่สามารถอุ้มน้ำไว้ได้ โดยสถานการณ์น้ำซึ่งท่วมในพื้นที่บ้านร่องขุ่น ม. 1 ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมือง เชียงราย ซึ่งน้ำลาวได้เพิ่มปริมาณสูงขึ้นจนเอ่อเข้าท่วมบ้านเรือนของราษฎรกว่า 16 หลังที่อยู่ริมฝั่งแม่น้ำ ระดับน้ำได้ลดลงทำให้น้ำที่ท่วมบ้านสูงกว่า 1 เมตรได้ลดระดับลงแต่ยังเหลือพื้นที่ลุ่มบางส่วนที่ถูกน้ำท่วมขัง อย่างไรก็ตามแม้ระดับน้ำลดนายชนัฐปพนธ์ คำอุ่น ผู้ใหญ่บ้านร่องขุ่น ได้รับแจ้งมีลูกบ้านคือนายวิถี คำอุ่น อายุ 42 ปีบ้านเลขที่ 30 ตกลงไปในแม่น้ำลาวที่เจิ่งนองเพราะฝนที่ตกหนักลงมาในช่วงนี้
โดยจุดที่มีคนพบคนตกลงไปแม่น้ำลาวบริเวณกลางสะพานข้ามแม่น้ำภายในหมู่บ้านพอดี จึงพร้อมด้วยชาวบ้านและหน่วยกู้ภัยไปตรวจสอบไม่พบร่างคนตกเห็นแต่เพียงแม่น้ำที่เจิ่งนองไปด้วยน้ำเต็มตลิ่ง แต่พบนายประสิทธิ์ คำอุ่น บิดาของนายวิถี ยืนอยู่ริมฝั่งพร้อมแจ้งว่าผู้ที่ตกลงไปในน้ำคือนายวิถีโดยเกิดเหตุได้เกิดไปยืนอยู่กลางสะพานก่อนจะกระโดดลงไปโดยไม่ทราบสาเหตุ ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์พยายามจะเอาไม้ยื่นไปช่วยจนพบว่าร่างนายวิถีลอยคอไปได้ไกลประมาณ 500 เมตรก็จมหายไปโดยไม่มีใครได้พบร่างอีกเลย
โดยนายประสิทธิ์ กล่าวว่าตามปกติบุตรชายเป็นคนว่ายน้ำเก่งแต่ก็ดื่มสุราเป็นประจำ กระทั่งก่อนเกิดเหตุตนได้ให้เงินลูกไปจำนวน 5,000 บาท ซึ่งก็พบว่าได้นำไปชวนเพื่อนฝูงดื่มสุราทั้งคืนที่ผ่านมาและพอถึงตอนเช้าก็ไปนอนอยู่บริเวณศาลาใกล้ริมแม่น้ำดังกล่าวและช่วงสายได้ไปดื่มสุราที่บ้านเพื่อนอีกก่อนจะกลับไปยืนอยู่กลางสะพานท่ามกลางรถที่สัญจรผ่านไปมาและผู้คนที่มีอยู่บริเวณดังกล่าว จากนั้นก็ได้กระโดดลงไปในน้ำ ซึ่งผู้เห็นเหตุการณ์ขับรถจักรยายนต์ตามไปและพยายามใช้ไม้ให้ยึดเหนี่ยว แต่บุตรชายอยู่ในสภาพอิดโรย ไม่สามารถเกะกิ่งไม้ก่อนจะจมน้ำหายไปต่อหน้าต่อตา โดยไม่มีผู้ใดได้พบเห็นอีกเลยทั้งๆ ที่เป็นคนที่ว่ายน้ำเก่ง สิ่งผิดปกติเดียวที่สังเกตุได้คือก่อนหน้านั้นเขาเป็นคนร่างเริงแต่ก่อนจะกระโดดลงไปในน้ำมีท่าทางซึมเศร้าไม่เหมือนเดิมซึ่งตนก็ยังสงสัยอยู่ว่าเหตุใดจึงกระโดดลงในแม่น้ำที่เจิ่งนองเช่นนี้
ด้านนายชนัฐปพนธ์ กล่าวว่าชาวบ้านและหน่วยกู้ภัยพยายามระดมกำลังช่วยกันค้นหาโดยมีชุดประดาน้ำจากสมาคมศิริกรณ์เชียงรายบรรเทาสาธารณภัยด้วย แต่เนื่องจากน้ำเจิ่งนองและไหลเชี่ยวรวมทั้งแม่น้ำกว้างทำให้ไม่สามารถกำหนดจุดค้นหาร่างได้ชัดเจนประกอบกับยังมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องทำให้เป็นอุปสรรคอย่างหนัก จึงได้ประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านได้ช่วยกันดูจากริมฝั่งไปพร้อมๆ กันด้วย และประสานไปยังหน่วยงานที่มีเรือเพื่อออกตระเวนไปตามลำน้ำเพื่อค้นหาให้เจอให้ได้ต่อไป
