กลุ่มผู้ปลูกลำไย ‘สารภี-พร้าว’ ยื่นขอภาครัฐ-หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งช่วยเหลือแก้ไขปัญหาราคาลำไยตกต่ำด่วน

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 24 กรกฎาคม ที่หน้าอาคารอำนวยการ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ กลุ่มผู้ปลูกลำไย พร้อมด้วยกำนัน ผู้ใหญ่บ้านจากอำเภอสารภีและอำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ เข้ายื่นหนังสือขอให้ภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาราคาลำไยตกต่ำโดยด่วนที่สุด โดยมีนายชัชวาล พุทธโธ ป้องกันจังหวัดเชียงใหม่ เป็นผู้รับมอบหนังสือ

โดยชาวสวนลำไยระบุว่า ขณะนี้ประสบปัญหาขาดทุนทุกราย และมีแนวโน้มที่กลุ่มผู้ซื้อรายใหญ่ในจังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน และเชียงราย จะกดราคาผลผลิตลงไปเรื่อยๆ ซึ่งเกษตรกรมีข้อเรียกร้องขอให้จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เชิญผู้ประกอบการลำไยอบแห้งทุกรายในจังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน เชียงราย มาปรึกษาหารือและทำข้อตกลงราคารับซื้อลำไยอย่างเป็นธรรม ตรงไปตรงมา และไม่เอารัดเอาเปรียบเกษตรกรจนเกินไป

 

Advertisement

โดยราคาที่ชาวสวนร้องขอ คือ ลำไยเกรด AA อยู่ที่ 20 บาทขึ้นไป เกรด A ราคา 15 บาทขึ้นไป เกรด B ราคา 10 บาทขึ้นไป และเกรด C ราคา 3 บาทขึ้นไป ตลอดจนขอให้ช่วยหาตลาดรับซื้อลำไยทุกรูปแบบ ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อสร้างรายได้ให้แก่กลุ่มเกษตรกรอย่างทั่วถึง

ทั้งนี้ นายมนัส ขันใส ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ ได้เชิญผู้แทนกลุ่มผู้ปลูกลำไยจากอำเภอสารภีและอำเภอพร้าว ร่วมปรึกษาหารือพร้อมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ เกษตรจังหวัดเชียงใหม่ พาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งรายงานสถานการณ์ในขณะนี้ว่า ราคาลำไยรูดร่วงและมัดกำปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง เป็นผลมาจากตลาดปลายทางประเทศจีนไม่คล่องตัว และตลาดอินโดนีเซียยังไม่เปิดให้มีการนำเข้า รวมทั้งผู้ประกอบการโรงงานอบลำไยยังเปิดรับซื้อไม่มากนัก ประกอบกับเกษตรกรนิยมจำหน่ายลำไยในลักษณะรูดร่วงมากกว่าสดช่อ เนื่องจากใช้แรงงานและมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่า

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ มอบหมายให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ วางแนวทางดำเนินการแก้ไขปัญหาราคาลำไยไว้เบื้องต้น โดยเตรียมจัดทำโครงการกระจายลำไยจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมออกประกาศรับสมัครผู้ประกอบการที่จะเข้าร่วมโครงการเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีผู้ประกอบการสมัครเข้าร่วมโครงการจำนวน 4 ราย และยังเปิดรับสมัครเพิ่มเติมอยู่ พร้อมทั้งได้ส่งจดหมายไปยังหัวหน้าส่วนราชการในทุกกระทรวง ช่วยประชาสัมพันธ์ให้ช่วยรับซื้อผลผลิตลำไย เพื่อให้ลำไยสดสามารถกระจายไปยังทั่วประเทศให้มากที่สุด ขณะเดียวกันยังได้ติดตามความคืบหน้าที่ประเทศอินโดนีเซีย ทราบว่ายังไม่เปิดอนุญาตให้มีการนำเข้าลำไย โดยภายในสัปดาห์นี้น่าจะมีความคืบหน้าเพิ่มเติม และได้รับความร่วมมือจากกงสุลจีนช่วยประสานงานกับประเทศจีน เพื่อช่วยรับซื้อลำไยสดจากประเทศไทย แต่ต้องใช้ผู้ประกอบการที่มีมาตรฐานในการส่งออกที่มีคุณภาพ เพื่อเร่งระบายออกให้เร็วที่สุด

Advertisement

นอกจากนี้ ยังเชิญชวนให้เกษตรกร อบลำไยเนื้อสีทองให้มากขึ้น เนื่องจากมีราคาขายที่สูง อีกทั้งมีตลาดรองรับอยู่มาก สามารถส่งไปยังประเทศจีนและทวีปยุโรปได้ ที่สำคัญคืออยากให้ผู้นำชุมชนปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเดิมๆ ด้วยการเพิ่มช่องทางตลาดด้านอื่นเพิ่มเติม เพื่อสามารถต่อรองราคากับพ่อค้าคนกลาง หรือล้งที่ควบคุมราคาได้ ต้องเพิ่มคู่แข่งเพื่อให้กลไกตลาดได้ทำงาน เช่น การกระจายผลผลิตลำไยลงพื้นที่ถึงผู้บริโภคโดยตรง เกษตรกรผู้ปลูกลำไยลงไปขายเอง โดยสร้างทีมขาย ส่งไปในแหล่งที่ปลายทางมีความพร้อมและไม่ใช่แหล่งผลิตลำไย เป็นต้น ซึ่งแนวทางที่ภาครัฐวางไว้ต้องบูรณาการช่วยกันทุกฝ่ายขับเคลื่อนอย่างเต็มที่ เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาราคาลำไยตกต่ำอย่างยั่งยืนต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image