เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 24 กรกฎาคม ที่ สำนักงานบังคับคดีจังหวัดกาญจนบุรี อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล อธิบดีกรมบังคับคดี พร้อมด้วย นายณรงค์ รักร้อย รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี นายสำเนา สุวรรณสัมพันธ์ ผู้อำนวยการบังคับคดีจังหวัดกาญจนบุรี ผู้แทนธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรจังหวัดกาญจนบุรี ผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกาญจนบุรี ร่วมกัน มอบเงินในส่วนเกินราคาหนี้ คืน นายพุฒ อินตรา อายุ 70 ปี ที่ปีนขึ้นไปใช้ผ้าขาวม้าผูกคอตัวเองที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อร้องเรียนกับ นายกรัฐมนตรี ให้หาทางช่วยเหลือ จากกรณีบ้านถูกยึด ขายทอดตลาด จนกระทั่ง มีคนมาขับไล่ออกจากบ้าน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 17 ก.ค. ที่ผ่านมา
โดย นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล อธิบดีกรมบังคับคดี ได้มอบเงินคืนในส่วนเกินราคาหนี้ เป็นจำนวนเงิน 210,968 บาท เพื่อคืนให้ นายพุฒ อินตรา โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมเป็นสักขีพยาน
ด้าน นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล อธิบดีกรมบังคับคดี กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ประมาณเดือน กรกฎาคม 2557 นายพุฒ ในฐานะผู้ค้ำประกันได้มีการไกล่เกลี่ยหนี้แล้ว แต่ไม่สามารถไกล่เกลี่ยกับคู่ความได้จนถึงมีการบังคับคดีขายทอดตลาด เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2559 ซึ่งขบวนการขายทอดตลาดครั้งนี้ราคาทรัพย์สูงกว่าหนี้ที่ นายพุฒ จึงมีความจำเป็นต้องคืนเงินให้ นายพุฒ ในฐานะเป็นลูกหนี้ ทางกรมบังคับคดีจะคืนเงินได้ตามกฎหมายนั้นคือต้องให้คู่ความโดยเฉพาะเจ้าหนี้รับรองบัญชี ซึ่งทางบังคับคดีจังหวัดกาญจนบุรีได้ประสานกับทางเจ้าหนี้และเจ้าหนี้ได้มีการรับรองบัญชีแล้ว จึงมีการส่งมอบเงินคืนส่วนเกินราคาหนี้คืนให้ นายพุฒ ซึ่งถือว่ากลไกทางบังคับคดีได้สิ้นสุดแล้ว ซึ่งจากนี้ทางศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกาญจนบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะไปขอไกล่เกลี่ยขอซื้อบ้านคืนจากผู้ที่ประมูลไปได้ เพื่อเป็นการช่วยเหลือ นายพุฒ ต่อไป
ขณะที่ นายพุฒ อินตรา กล่าวว่า รู้สึกดีใจมากที่ทุกภาคส่วนได้ระดมให้ความช่วยเหลือตนในทุกๆ ด้าน ขณะนี้ตนมีสภาพจิตใจดีขึ้นมาก และขอขอบคุณกรมบังคับคดี จังหวัดกาญจนบุรี ศูนย์ดำรงธรรม รวมทั้งหน่วยงานต่างๆ ทั้งหน่วยงานจากส่วนกลางและในจังหวัดกาญจนบุรี แต่ทั้งนี้ตนยังไม่รู้ว่าจะได้อาศัยทำกินในที่ดินแปลงเดิมที่เคยเป็นของตนหรือไม่ ซึ่งทางจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะได้ให้ความช่วยเหลือในการเจรจาไกล่เกลี่ยเพื่อขอซื้อที่ดินคืนจากผู้ที่ประมูลที่ดินไปได้คืนให้กับตน อย่างไรก็ตามตนยังอยากอาศัยและทำกินในที่ดินแปลงนี้ เนื่องจากญาติพี่น้องก็อยู่อาศัยและทำกินในบริเวณเดียวกัน
