เขื่อนเจ้าพระยาเผยเดือนกันยายนอาจระบายน้ำสูง 2,300 ลบ.ม. พื้นที่แก้มลิงเตรียมตัว

เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม เวลา 06:00 น. ตรวจสอบสถานการณ์ในลุ่มเจ้าพระยา ล่าสุดพบว่า ปริมาณน้ำป่าจากภาคเหนือที่หลากท่วมพื้นที่ จ.สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร และ จ.นครสวรรค์ ไหลเข้าสู่เขื่อนเจ้าพระยา ที่จุดวัดน้ำหน้าค่ายจิรประวัติ จ.นครสวรรค์ในรอบ 24 ชั่วโมงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดวัดได้ 1,769 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ต.บางหลวง อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ทรงตัวอยู่ที่ 15.50 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง และเขื่อนเจ้าพระยา ยังคงการระบายน้ำไว้ในเกณฑ์ 1,400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่งผลให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนทรงตัวอยู่ที่ 13.25 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง

นายสุชาติ เจริญศรี ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 12 ชัยนาท เปิดเผยว่าจากการคงอัตราระบายน้ำของเขื่อนเจ้าพระยา ในเกณฑ์ 1,400 ลูกบาสก์เมตรต่อวินาที จะส่งผลให้พื้นที่ท้ายเขื่อนริมแม่น้ำเจ้าพระยาตั้งแต่ อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ลงไปถึง จ.สิงห์บุรี มีระดับน้ำที่ทรงตัว แต่ จ.อ่างทอง และ จ.พระนครศรีอยุธยา จะมีระดับน้ำที่สูงขึ้น 5-10 ซม. ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงริมตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำ ในอำเภอป่าโมก จ.อ่างทอง อำเภอบางบาล และอำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึงควรเฝ้าสังเกตความเปลี่ยนแปลง

และในอนาคตตามแผนการบริหารจัดการน้ำของกรมชลประทาน คาดการณ์ว่าในเดือนกันยายน ซึ่งเป็นช่วงน้ำหลากจากสถิติของปีที่ผ่านมา วันที่ 17 กันยายน 2559 เขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำในอัตรา 2,300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งทำให้น้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ท้ายเขื่อน ซึ่งในปีนี้กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่า ปริมาณน้ำฝนจะใกล้เคียงกับปี 2559 ดังนั้นในช่วงเดือนกันยายน กรมชลประทานอาจจะระบายน้ำใกล้เคียงอัตราเดิม และจะผันน้ำเข้าพื้นที่แก้มลิงทั้ง2ฝั่งเพื่อช่วยลดผลกระทบด้วย ซึ่งพื้นที่แก้มลิงทั้ง2ฝั่งจะสามารถเก็บน้ำได้ประมาณ 1,500 ล้านลูกบาศก์เมตร จึงขอให้ประชาชนที่มีพื้นที่เกษตรและบ้านเรือนในพื้นที่แก้มลิง และพื้นที่ลุ่มต่ำริมตลิ่งเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ และติดตามประกาศจากทางราชการอย่างใกล้ชิดต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image