ความคืบหน้ากรณีแก้วหมีควายยักษ์เพศเมีย สัตว์เลี้ยงของสำนักสงฆ์สวนสมุนไพรหลวงปู่ละมัยที่ ต.บ้านโตก อ.เมืองเพชรบูรณ์ ก่อเหตุกัดขย้ำชาวบ้านอาการปางตาย จากนั้นแก้วถูกเจ้าหน้าที่ย้ายไปกักขังที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาค้อ จนเกิดกระแสดราม่าบนสังคมโซเชียลมีเดียประเด็นพาแก้วกลับบ้าน หลังเห็นสภาพหมีควายยักษ์ตัวนี้ถูกขังเดี่ยวอย่างน่าสงสาร แถมยังชี้ว่าไม่ใช่ความผิดของแก้วอีกด้วย ล่าสุดนายไกรสร กองฉลาด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้โพสต์บนเฟซบุ๊กส่วนตัวแสดงความคิดเห็นโดยไม่เกี่ยวกับตำแหน่งหน้าที่ในเรื่องแก้วหมีควายกัดคน โดยระบุว่า
“ดีใจครับที่คนไทยหันมาสนใจและใส่ใจกับหมีไทยมากกว่าหมีแพนด้าในตอนนี้ คิดอยู่นานครับ เรื่องหมีแก้ว จริงๆ ไม่ใช่หน้าที่ของผม และผมก็ไม่มีอำนาจในเรื่องนี้ เนื่องจากหมีเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามกฎหมาย ซึ่งผู้มีอำนาจหน้าที่โดยตรงคือกรมอุทยานฯ แต่ในฐานะคนไทยคนหนึ่งซึ่งเกิดที่เพชรบูรณ์ ท่ามกลางกระแสล่ารายชื่อพาแก้วกลับบ้าน แน่นอนครับความเห็นในครั้งนี้ของผม คงไม่มีดอกไม้อย่างเดียว ก้อนอิฐคงปลิวมาเป็นห่าฝน”
“แต่ผมมั่นใจว่า ความเห็นและสิ่งที่ผมจะโพสต์ในครั้งนี้ปราศจากอคติและผลประโยชน์ใดๆ แอบแฝงทั้งสิ้น เหตุผลในการโพสต์ครั้งนี้มีเจตนาเพื่อให้ข้อมูลที่ทวนกระแสเป็นข้อมูลอีกด้านที่อยากให้คนในสังคมคิดด้วยกัน เพราะตอนนี้แก้วมาถึงทางสองแพร่งที่ต้องถูกเลือก ที่ต้องบอกว่าถูกเลือก เพราะชีวิตแก้วออกแบบเองไม่ได้ ชะตากรรมของแก้วอยู่ในมือมนุษย์มาตลอดตั้งแต่เกิด เริ่มตั้งแต่แม่ถูกมนุษย์ฆ่าตาย แก้วไม่มีสิทธิที่จะเลือกทางเดินของชีวิตตัวเอง”
“ดังนั้น สิ่งที่ผมอยากให้ทุกฝ่ายใคร่ครวญให้รอบด้านก่อนที่จะตัดสินขีดเส้นให้แก้วเดิน ความเห็นส่วนตัวของผม ไม่เกี่ยวกับตำแหน่งหน้าที่ก็คือ วันนี้มันไม่สำคัญหรอกครับว่าแก้วจะไปไหนและอยู่กับใคร เพราะที่สำคัญที่สุดคือ แก้วอยู่ที่ไหนจึงจะเหมาะสม สำหรับแก้ว สำหรับการใช้ชีวิตของแก้ว ขอความกรุณาว่า ผมคงไม่เถียงกับใคร ไม่ทะเลาะด่าทอกับใคร เพราะปัญญาชนย่อมยึดหลักการและเหตุผลอยู่เหนือการใช้อารมณ์ครับ ป.ล.เรามารณรงค์สร้างบ้านให้แก้วที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาค้อกันดีมั้ยครับ เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ของลูกหลานและประชาชนคนไทย”
