เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 11 สิงหาคม 2560 ร.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ ปันนิตามัย รอง สว.สอบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี ได้รับแจ้งมีรถของการไฟฟ้าฯชนกับรถจักรยานยนต์มีผู้เสียชีวิต เหตุเกิดปากซอยติวานนท์ 52 ถนนติวานนท์ อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี จากนั้นจึงแจ้งแพทย์เวรจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูรุดตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบร่างของนายสมัย พงษ์รักษา อายุ 45 ปี สภาพศพศีรษะแตกกระจายนอนคว่ำหน้าเสียชีวิตข้างรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้ารุ่นเวฟ สีน้ำเงิน-ขาว ทะเบียน อสก 499 กทม. ห่างไปเล็กน้อยพบรถคู่กรณีเป็นรถบรรทุก 6 ล้อของการไฟฟ้าฯยี่ห้ออีซูซุ สีส้ม ทะเบียน 97-5414 กทม. จอดอยู่ โดยมีนายชูเกียรติ ชูโรจน์ อายุ 27 ปี เป็นผู้ขับขี่ ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในที่เกิดเหตุ และจากการตรวจสอบพบว่ามีร่องรอยของคราบน้ำมันหกหล่นบนพื้นผิวถนนเป็นระยะทางไกลกว่า 100 เมตร ซึ่งน้ำมันนั้นหกจากรถของการไฟฟ้าฯคันดังกล่าว
นายเจษฎา แก้วบุญเรือง ผู้เห็นเหตุการณ์ กล่าวว่า ขณะที่ตนเองขับขี่รถจักรยานยนต์ตามหลังผู้เสียชีวิตมานั้น พบเห็นรถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิตกำลังแทรกกลางระหว่างรถของการไฟฟ้าฯ แต่เกิดเสียหลักล้มลงจนทำให้ตัวของผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์นั้นกระเด็นเข้าไปใต้ท้องรถบรรทุกของการไฟฟ้าฯ เป็นเหตุให้รถนั้นทับจนเสียชีวิต
จากการสอบถามเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าฯ เปิดเผยว่า น้ำมันที่หกหล่นลงมานั้นเกิดจากที่หม้อแปลงไฟฟ้าที่บรรทุกมาเกิดโค่นล้มอยู่ที่ท้ายกระบะจนทำให้น้ำมันที่อยู่ในตัวหม้อแปลงเกิดไหลหกออกมาหล่นบนพื้นถนนดังกล่าว
ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่า เบื้องต้นได้ทำการบันทึกภาพที่เกิดเหตุพร้อมทั้งสอบปากคำผู้เห็นเหตุการณ์รวมถึงเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าฯไว้ สันนิษฐานว่าในขณะที่รถจักรยานยนต์ของผู้ตายขับขี่พยายามแทรกระหว่างรถของการไฟฟ้าฯนั้น เป็นเวลาเดียวกับน้ำมันที่ไหลหกหล่นมาจากรถบรรทุกของการไฟฟ้าฯ ซึ่งเกิดจากหม้อแปลงล้มที่ท้ายกระบะ เป็นเหตุให้เสียหลักลื่นล้มและถูกรถบรรทุกของการไฟฟ้าฯทับจนเสียชีวิต แต่อย่างไรก็ตาม จะต้องทำการสอบปากคำเจ้าหน้าที่ของการไฟฟ้าฯ และผู้เห็นเหตุการณ์อีกครั้ง ส่วนร่างผู้เสียชีวิตได้มอบให้ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูนำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติรังสิต เพื่อชันสูตรต่อไป
