(19 ม.ค.59) ที่วัดปากสมุทร ต.แหลมใหญ่ อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม ได้มีการประชาคมก่อสร้างคลังเก็บแก๊สแอลพีจี บนพื้นที่ชายฝั่งทะเลหมู่ 7 ต.แหลมใหญ่ บนพื้นที่ 43 ไร่ ของบริษัท NS LPG จำกัด ประกอบด้วยการก่อสร้างอาคารสำนักงาน, ติดตั้งบัลล์(ถังบรรจุแก๊ส)ขนาดใบละ 1,000 ตัน จำนวน 8 ใบ ระยะแรกจะก่อสร้าง 4 ใบก่อน และท่าเทียบเรือ 1 ท่า โดยมี พ.อ.อนุสรณ์ สวนอิน รองเสนาธิการมณฑลทหารบกที่ 16,ว่าที่ ร.อ.คมสัน ดุษฎีเสนีย์ พลังงาน จ.สมุทรสงคราม, น.ต.อภิชัย คล้ายแก้ว ผอ.สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสมุทรสงคราม, นายสัจจา พุกสุขสกุล โยธาธิการและผังเมือง จ.สมุทรสงคราม, นายมานพ ญาณพิสิฐกุล นักวิชาการสิ่งแวดล้อมชำนาญการพิเศษ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.สมุทรสงคราม,นายอมรศักดิ์ ฉัตรทิน นายก อบต.แหลมใหญ่ พร้อมผู้ที่เกี่ยวข้อง และชาวบ้านหมู่ 7 ต.แหลมใหญ่เข้าร่วมประชาคมกว่า 300 คน
นายจุมพร อภิโชคทวีไพศาล ผอ.ฝ่ายสำนักงานบริษัท NS LPG จำกัดได้ชี้แจงว่าโครงการดังกล่าวได้ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายเช่นขออนุญาตก่อสร้างอาคารกับ อบต.แหลมใหญ่, ใบอนุญาตท่าเทียบเรือกรมเจ้าท่าเป็นผู้ออกใบอนุญาต, ขณะที่รายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมได้รับแจ้งเป็นเอกสารจากสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมว่าไม่ต้องดำเนินการจัดทำ รวมทั้งตรวจสอบผังเมืองรวมเมืองสมุทรสงครามแล้วว่าสามารถสร้างได้ เป็นต้น
จากนั้นชาวบ้านหลายรายต่างลูกขึ้นแสดงความไม่เห็นด้วยในประเด็นต่างๆเช่น เป็นห่วงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของชาวบ้าน, การก่อสร้างดังกล่าวจะทำให้สิ่งแวดล้อมในพื้นที่โดยเฉพาะทางทะเลเสียหาย ชาวบ้านหวั่นวิถีชีวิตในการทำประมงพื้นบ้านจะล่มสลาย นอกจากนี้ชาวบ้านยังเห็นว่าการก่อสร้างคลังแก๊สในพื้นที่ชุ่มน้ำ อาจจะขัดกับอนุสัญญาว่าด้วยพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระหว่างประเทศโดยเฉพาะเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของนกน้ำ หรืออนุสัญญาแรมซาร์ ขณะที่ชาวบ้านบางรายยังรู้สึกไม่พอใจเจ้าหน้าที่ของรัฐบางหน่วยงานที่กล่าวก่อนการประชาคมว่าการประชุมครั้งนี้ห้ามคัดค้าน แต่ให้อยู่อย่างมีระบบฟังอย่างสร้างสรรค์เท่านั้น
ด้านนางทองคำ เจือไทย ชาวบ้านหมู่ 4 ต.แหลมใหญ่กล่าวว่าตนรู้สึกผิดหวังกับการทำประชาคมครั้งนี้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่รัฐบางหน่วยงานระบุว่า “ชาวบ้านผู้ที่มีสิทธิในพื้นที่แต่ไม่มีสิทธิคัดค้าน และการประชาคมครั้งนี้ไม่มีการนำมาเป็นการตัดสินเป็นเพียงรับฟังข้อเสนอแนะเท่านั้น” ตนจึงไม่เข้าใจว่าอะไรเกิดขึ้นกับประชาชน และชาวบ้านอย่างตนจะมีสิทธิในพื้นที่ได้หรือไม่ นอกจากนี้หน่วยงานดังกล่าวยังบอกว่าหน่วยงานภาครัฐรู้เรื่องหมดแล้ว แต่ตนสงสัยว่าทำไมชาวบ้านในพื้นที่ผู้ผลิตอาหารทะเลให้กับผู้บริโภค จะต้องเป็นผู้รับกรรมผลของการกระทำจากคนนอกพื้นที่ ทั้งที่ยังไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนแต่อย่างใด ขณะที่โครงการดังกล่าวเป็นโครงการที่ใหญ่เป็นศูนย์กลางแก๊สส่งไปทั่วภาคกลางและอ้างว่าจะสร้างอาชีพ แต่ชาว ต.แหลมใหญ่พอใจในสิ่งที่พื้นที่ของตนมีอยู่ ชาวบ้านไม่เอาอะไรทั้งนั้น จะอยู่แบบพอเพียงตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ขณะที่ นายสมพงษ์ น้อยเฉลิม ส.อบต.แหลมใหญ่ หมู่ที่ 3 กล่าวว่าพื้นที่ ต.แหลมใหญ่เป็นพื้นที่สีเขียวอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่ชาวบ้านร่วมกันฟื้นฟูปลูกป่าชายเลนมาตั้งแต่โบราณ แต่ล่าสุดบริษัทจากภายนอกจะมาสร้างคลังแก็สในพื้นที่ทำให้ชาวบ้านไม่สบายใจ ตนเป็นคนแหลมใหญ่เกิดในผืนแผ่นดินนี้มากว่า 60 ปี ในอดีตหลายโครงการที่จะมาสร้างต้องทำประชาคมก่อนเมื่อชาวบ้านคัดค้านโครงการก็พับหยุดไป แต่ปัจจุบันตนไม่เคยคิดว่าประชาธิปไตยของชาวบ้านหายไปไหน จู่ๆก็จะมาสร้างคลังแก๊สในพื้นที่ตำบลแหลมใหญ่ ตนจึงเชื่อว่าต้องมีอะไรแอบแฝงไม่โปร่งใสแน่นอน
อย่างไรก็ตาม การประชุมดังกล่าวใช้เวลากว่า 2 ช.ม. พ.อ.อนุสรณ์ สวนอิน รองเสนาธิการมณฑลทหารบกที่ 16 เกรงว่าจะบานปลายจึงสรุปให้ชาวบ้านในพื้นที่ลงความเห็นว่าต้องการแนวทางไหน ผลปรากฏว่าชาวบ้านในพื้นที่มีมติเป็นเอกฉันท์ให้บริษัท NG LPG จำกัด ชะลอการก่อสร้างคลังแก๊ส เพื่อรอการตรวจสอบความถูกต้องและเหมาะสมของข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องเสียก่อน