เมื่อวันที่ 17 ส.ค. พ.ท.จัตตุพล ศรีเกตุ เสนาธิการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยกองทัพภาคที่ 4 ประจำพื้นที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ่อผุด นำกำลังเข้าตรวจสอบภายในวัดบุณฑริการาม หรือวัดพังบัว ตามที่ได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านว่า เป็นแหล่งมั่วสุมยาเสพติด ซึ่งมีพระสงฆ์บางรูปภายในวัดดังกล่าวมีพฤติกรรมเสพยาเสพติด แต่ละวันจะมีวัยรุ่นแวะเวียนเข้ามาในกุฏิอยู่บ่อยครั้ง
เมื่อเข้าไปตรวจสอบภายในวัด เจ้าหน้าที่ได้นิมนต์พระสงฆ์ทั้งหมด 12 รูป และลูกศิษย์วัดอีก 2 คน มาตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดในร่างกาย ซึ่งจากการตรวจสอบก็พบว่ามีพระสงฆ์ 1 รูป ชื่อว่าพระไพโรจน์ และนายยุทธชัย ไชยรัตน์ อายุ 44 ปี ชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช นายสงกรานต์ ยังเจริญ อายุ 37 ปี ชาวจังหวัดพิษณุโลก ซึ่งเป็นลูกศิษย์วัด 2 คน มีสารเสพติดในร่างกายปัสสาวะเป็นสีม่วง เจ้าหน้าที่จึงได้แยกออกมานำพระไพโรจน์ไปตรวจค้นภายในกุฏิ และห้องพักของลูกศิษย์อีก 2 คน
จากการตรวจค้นภายในกุฏิของพระไพโรจน์ พบอุปกรณ์การเสพไอซ์ เกร็ดไอซ์ที่เหลืออยู่ในหลอดบรรจุ นอกจากนี้ยังพบกระป๋องเบียร์ที่ซ่อนอยู่บนฝ้าเพดานอีกจำนวนมาก และสมุดที่ใช้คำนวณตัวเลขใบ้หวย ส่วนที่ห้องพักของนายสงกรานต์ เจ้าหน้าที่พบปืนลูกซองยาว 1 กระบอก พร้อมด้วยเครื่องกระสุน และอุปกรณ์การเสพ และห้องพักของนายยุทธชัย เจ้าหน้าที่พบอุปกรณ์การเสพเช่นกัน
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังพบอีกว่า บริเวณกำแพงหลังวัดข้างห้องพักของนายสงกรานต์ มีการทำบันไดไม้พาดที่ตัวกำแพงทั้ง2ฝั่ง สำหรับใช้เป็นที่เข้าออกของกลุ่มที่มามั่วสุมเพื่อหลบสายตาของคนภายนอก
จากการสอบถามนายไพโรจน์ ดีเทียน หรือพระไพโรจน์ ผู้ต้องหาให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า กระป๋องเบียร์ที่พบนั้นเป็นของหลานตนเองที่ไปซื้อมากินแล้วเอาไปซุกไว้ที่ใต้ฝ้าเพดาน และยอมรับว่าได้เสพไอซ์จริง แต่จะเสพในช่วงที่ใกล้หวยออก เพราะต้องนั่งคำนวณตัวเลข10ปีย้อนหลัง เพื่อให้ได้ตัวเลขหางเดียวมาให้กับญาติโยม
ส่วนนายสงกรานต์ ยอมรับว่าเสพยาเสพติดไอซ์เช่นกัน ส่วนปีนลูกซองยาวที่พบนั้นไม่ใช่ของตนเอง แต่เป็นของเพื่อนที่นำมาฝากไว้ และนายยุทธชัย ยอมรับว่าเสพกัญชาเข้าไป
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายไพโรจน์ ดีเทียน หรือพระไพโรจน์ ไปให้พระครูกิตติธรรมสุนทร เจ้าอาวาสวัดภูเขาทอง ต.แม่น้ำ เป็นผู้สึกให้ ก่อนนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป