ชาวบ้านบ่อนางชิงกลัวอาถรรพ์ขุดสระน้ำในที่ป่าช้าเขตวัด ยอมคืนเงินให้รัฐ แม้พบปัญหาภัยแล้งก็ตาม

เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 20 สิงหาคม นายกล้าณรงค์ พงษ์เจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว พร้อมด้วย นายทินกร สุทิน ชลประทานจังหวัดสระแก้ว พ.อ.เฉลิม เนียมช่วย รอง ผอ.กอ.รมน. นายณัฏฐพงษ์ พัฒนรัฐ นายอำเภอวัฒนานคร นายวิชัย บรรณสาร นายก อบต.ห้วยโจด นายชัยศักดิ์ เชี่ยวเอี่ยมวัฒนา กำนัน ต.ห้วยโจด พ.อ.สุบิน บุญเล็ก ผกก.สภ.วัฒนานคร และ เจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสระแก้ว ได้เดินทางไปที่วัดบ้านบ่อนางชิง หมู่ 4 ต.ห้วยโจด อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว เพื่อดำเนินการลงประชามติ ในการขุดสระน้ำ ในบริเวณป่าช้าเก่า ในเขตพื้นที่วัดบ้านบ่อนางชิง โดยมีชาวบ้านบ่อนางชิง ทั้งหมู่บ้าน เข้าร่วมลงประชามติกว่า 300 คน

ก่อนที่มีการลงประชามติ นายกล้าณรงค์ พงษ์เจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว และนายทินกร สุทิน ชลประทานจังหวัดสระแก้ว ได้ชี้แจงที่มาที่ไปของโครงการ และโครงการดังกล่าวได้ผ่านประชามติมาแล้ว ทางกรมชลประทานจึงได้เสนอไปที่หน่วยเหนือเพื่ออนุมัติงบประมาณในการขุดสระน้ำประจำหมู่บ้านเพื่อแก้ปัญหาภัยแล้งอย่างยั่งยืน จากนั้นจึงให้ตัวแทนของชาวบ้าน 5 คน ยืนขึ้นอภิปรายข้อดีข้อเสียของการขุดสระแก้ว ก่อนลงประชามติ ทั้ง 5 คนที่ยืนอภิปรายต่างเห็นพ้องกันว่า ไม่ควรขุดสระในเขตป่าช้าเก่าซึ่งอยู่ในเขตวัดบ้านบ่อนางชิง โดยให้เหตุผลว่า ขุดแล้วไม่สามารถเก็บน้ำได้ เนื่องจากความลึกเพียง 3.50 เมตรเท่านั้น และที่ดินยังเป็นที่ดินของวัดด้วย

ด้าน นายกล้าณรงค์ พงษ์เจริญ กล่าวว่า เมื่อปี 2549 มีการสำรวจเกี่ยวกับหมู่บ้านที่ประสบภัยแล้งจำเป็นต้องมีน้ำ เพื่อรองรับการเจริญเติบโต ด้านเกษตรมีมากขึ้น เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน แต่แหล่งน้ำมีเท่าเดิม คนมากขึ้น รุ่นลูกหลานต้องมีน้ำสมบูรณ์ สำหรับการขุดสระ ได้ขอกำลังจากกองทหารช่าง เป็นผู้ดำเนินการ เนื่องจากมีกำลัง มีเครื่องจักรเพียงพอ แบ่งเบา เพื่อดูแลทุกข์สุขของประชาชน มีงานรองรับของคนในพื้นที่ ถ้าทำสัญญาจ้างแล้ว ทำไม่ทันปีงบประมาณ ก็สามารถกันเงินเหลื่อมปีได้ โครงการขุดสระน้ำบ้านบ่อนางชิง อนุมัติแล้ว จำนวน 4.5 ล้านบาท เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ความพร้อมของพื้นที่ และผลการสำรวจมีการวิเคราะห์มาแล้ว แต่เมื่อมาถึงปัจจุบัน อาจมีข้อมูลใหม่ที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม หากประชาชนมีน้ำที่สมบูรณ์แล้ว ก็สามารถขุดหรือไม่ขุดก็ได้ อย่างไรก็ดีภาครัฐ ก็ได้แก้ไขปัญหาความเดือดร้อน

ทางด้านนายประสิทธิ์ชัย พันธุรักษ์ ตัวแทนชาวบ้าน กล่าวว่า ที่ดินที่จะขุดสระแก้ว เป็นป่าช้าเก่า และเป็นที่ดินของวัดกว่า 10 ไร่ ความลึกของสระเพียง 3.50 เมตร ไม่สามารถเก็บน้ำได้ และไม่มีทางน้ำไหลเข้า จะใช้น้ำจากน้ำฝนอย่างเดียวคงไม่พอ จึงไม่เห็นด้วยในการขุดสระในที่วัดครั้งนี้

Advertisement

หลังจากตัวแทนได้อภิปรายแล้ว จึงมีการลงประชามติ โดยวิธีเปิดเผย โดยการยกมือ แล้วนับจำนวน ผลปรากฏว่า มีผู้ที่สนับสนุนให้ขุด มี 98 เสียง ผู้ไม่สนับสนุนไม่ให้ขุดจำนวน 139 เสียง ดังนั้น มติเป็นเอกฉันท์ โดยทางกรมชลประทานจะได้นำข้อมูลนี้นำเสนอให้หน่วยเหนือให้ทราบต่อไป และชลประทานสระแก้วจะดำเนินการ สร้างอ่างเก็บน้ำคลองนางชิงต่อไป เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนให้ได้ ในขณะเดียวกัน ประธานในที่ประชุม ได้เสนอให้ประชาชน ได้แสดงความคิดและมีการท้วงติงหรือไม่ ปรากฏว่าไม่มีผู้ใดคัดค้านท้วงติงแต่อย่างใด จึงทำการปิดประชุม

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image