จากกรณีที่หนุ่มโพสต์เฟสบุ๊คขอความเป็นธรรมให้เพื่อนหลังอ้างว่าถูกตำรวจถีบรถ จยย.ของเพื่อนจนเป็นเหตุเสียหลักชนเสาไฟฟ้า จนบาดเจ็บ ขณะที่ ผู้กํากับตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย
ตามที่เฟสบุ๊ครายหนึ่งโพสต์ข้อความระบุว่า มาดูกล้องเเล้วน่ะคับ สรุปว่าตำรวจอาสาถีบ รถจักรยานยนต์ของเพื่อนล้มจนได้รับบาดเจ็บ พร้อมกับโพสต์คลิปที่ถ่ายจากกล้องวงจรปิดมาโพสต์ลงในเฟสบุ๊ก
หลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง โดย ด.ต.นริศ จิตงามขำ หัวหน้าสายตรวจชุดมังกรแดงของ สภ.เมืองราชบุรี กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้มาตรวจสอบเหตุที่มีชาวบ้านร้องเรียน กรณีที่มีรถเก๋ง ขับรถพุ่งชนรถ จยย.ที่บริเวณทางเลียบสายชลประทานห้วยไผ่-เกาะพลับพลา โดยได้รับคำสั่งให้ตรวจตั้งแต่เวลา 01.00 -05.00 น. ของทุกวัน ได้ออกตรวจที่บริเวณถนนที่บริเวณทางเลียบสายชลประทานห้วยไผ่-เกาะพลับพลาเพื่อป้องกันเหตุที่ได้รับร้องเรียนจากชาวบ้าน ในระหว่างที่ขับรถกลับ เส้นทางราชบุรีสายเก่า ผ่านขึ้นไปถึงบริเวณหมู่บ้านชีวาได้พบกลุ่มวัยรุ่นได้ขับจยย.มาบนถนนจำนวนหลายคันเมื่อกลุ่มวัยรุ่นพบเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดหนึ่งได้เลี้ยวหัวกลับมุ่งหน้าเข้าเมือง อีกชุดได้ขี่รถสวนกับรถสายตรวจ เมื่อเห็นดังนั้นจึงได้เปิดสัญญาณไฟ ตามเพื่อที่จะกดดันกลุ่มวัยรุ่นให้ออกนอกพื้นที่พบกับรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจอาสาที่มาช่วยร่วมตรวจเมื่อกลุ่มวัยรุ่นเห็นรถตำรวจอาสาจึงเลี้ยวหัวกลับมาทั้งหมด 4 คัน มี 3 คันที่แยกเข้าไปตำบลหลุมดินมีหนึ่งคันที่รถของตนจอดอยู่เมื่อรถคันดังกล่าววิ่งเลยไปแล้วนั้นตนจึงได้เลี้ยวหัวกลับเพื่อติดตามเนื่องจากสงสัยว่าจะมีสิ่งของผิดกฎหมายหลังลงไปให้สัญญาณมือให้จอดแล้วแต่รถคันดังกล่าวไม่หยุดกลับเร่งเครื่องเพื่อหลบหนีเข้าไปยังตัวเมืองราชบุรี ประมาณ 2 รอบแล้วจึงวิ่งย้อนกลับมาที่เชิงสะพานศิริลักษณ์แล้ววิ่งเข้าแยกบ้านท่าแก่วิ่งตามทางมาจนถึงที่เกิดเหตุ แต่ขณะที่วิ่งไล่ติดตามมา รถสายตรวจของ สภ.เมืองราชบุรีไม่สามารถติดตามได้เนื่องจากรถอยู่ในสภาพเก่า แต่ได้มีอาสาสมัครตำรวจชุมชนชุดมังกรแดงมาจนถึงที่เกิดเหตุที่ปากทางเข้าเทศบาลตำบลหลุมดิน ได้เห็นวัยรุ่นที่หลบหนีล้มลงหน้าบริเวณทางเข้าและรถเจ้าหน้าที่อาสาได้เลยไปเนื่องจากเบรกไม่ทันแล้วจึงย้อนกลับมาได้เห็นว่ามีคนเจ็บจึงได้เร่งแจ้งให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิประชานุกูลมายังที่เกิดเหตุซึ่งระหว่างที่มูลนิธิกำลังมาได้มีชาวบ้านแจ้งไปทางเทศบาลตำบลหลุมดินได้แจ้งให้รถอุบัติเหตุของเทศบาลตำบลหลุมดินมารับตัววัยรุ่นที่รถล้มไปส่งยังโรงพยาบาล ซึ่งจุดที่เกิดเหตุกับทางเทศบาลอยู่ห่างกันประมาณ200เมตร
ทางด้าน นายบี (นามสมมุติ) บอกว่า ตนได้ขี่รถมาด้วยกัน 3 คันหลังจากนั้นก็จอดปัสสาวะข้างทาง เป็นคนเจ็บที่ขับรถนำออกไปก่อนและก็มี่รถ CBR ขับตามไป ตนจึงขับตามไปส่วนคนอื่นตกใจก็เลยขี่ตามไปเนื่องจากไปกันไกลแล้ว ตนที่ขี่ตามไปนั้นเห็น คนที่อยู่บน CBR 2 คน ถีบรถเพื่อนของตนที่ขับนำไปก่อนจนกระเด็นเข้าข้างทาง หลังจากนั้นพอไปถึงที่เกิดเหตุตนก็ได้กระโดดลงไปช่วย หลังจากนั้นก็มาตามคนที่เหลือไปช่วย ซึ่งยืนยันว่าเห็นแน่นอนว่าถูกถีบ
นายเกียรติศักดิ์ รุ่งทัน อายุ 16 ปี ผู้ที่โพสต์คลิปลงเฟสบุ๊ค กล่าวว่า เพื่อนของตนนั้นได้ขี่จยย.มาทางเส้นหลุมดิน และได้มีรถจยย.CBR ไล่กวดมาเพื่อนของตนตกใจจึงได้เร่งเครื่องหนีจังหวะที่เพื่อนของตนนั้นขี่ตามไป 2 คัน 4 คน ได้เห็นว่า นายอ๊อฟ นั้นได้โดนตำรวจถีบ เสียหลักล้มไปชนเสาไฟฟ้าแล้วตำรวจก็ขี่จยย.หนีไปเลยโดยที่ไม่ได้มาดูอะไรเลยขณะเดียวกันนายอ๊อฟก็ชัก ซึ่งน้องของตนที่อยู่ในเหตุการณ์ได้เข้ามาตามตนที่บ้าน ตนก็ได้ออกไปดูไม่พบใคร นอกจากนายอ๊อฟและรถ ตนจึงได้โทรเรียกรถพยาบาลและมาที่เทศบาลหลุมดินเพื่อขอความช่วยเหลือ ซึ่งเพื่อนๆ ที่ตามมานั้นยืนยันว่าถีบ เพราะเพื่อนๆ นั้นขี่ตามมาและเห็นชัดทั้งหมด 5 คน ตนก็อยากขอความเป็นธรรม เด็กทำอะไรผิดหนักหนาถึงจะต้องถีบขนาดนั้นซึ่งขี่มาแรงไม่น่าถีบและไม่ลงมาดูเด็กเลยปล่อยให้เด็กชักอยู่แบบนั้นกว่าน้องของตนจะมาเจอก็นานสักพักหนึ่งแล้ว ดีที่ไม่ตาย ซึ่งอาการตอนนี้ก็อยู่ขั้นสาหัส มีเลือดคั่งในสมอง และยังไม่สามารถพูดได้ อยากบอกผู้ที่เกี่ยวข้องให้มาดูแลเรื่องนี้หน่อยเพราะทางญาติเองก็ไม่มีเงินอยากให้ช่วยเหลือกันบ้าง อยากได้ความยุติธรรม เพราะการทำแบบนี้มันเกิดกว่าเหตุไปรุนแรงไป ส่วนที่ตนนั้นโพสลงเฟสไปนั้นก็ไม่ได้หวังอะไรแค่อยากให้คนอื่นรู้ว่ามันเกิดกว่าเหตุไปหรือเปล่า รุ่นแรงหรือเปล่า
นางลัดดา อึ้งพานิช คุณย่า กล่าวว่า ตนเองก็อยู่บ้านก็ไม่รู้ว่าเกิดเหตุอะไรก้ได้มาเห็นในคลิปว่าสองนายนี้ไล่กวดมา หลานของตนก็เข้าไปอยู่แบบนั้นแล้วเขาก็ขับเลยไปค่อยวนกลับมา ตนจึงสงสัยว่าทำไมถึงไม่มาดูเป็นเจ้าหน้าที่ อยากฝากขอความเป็นธรรมให้กับหลานตนก็ไม่มีอะไรมากมาย
ทางด้านนายกเทศมนตรี ต.หลุมดินจะเดินทางไปเจรกับผู้กำกับ สภ.เมืองราชบุรีในวันพรุ่งนี้ด้วย
ผกก.ลั่นใครทำผิดกฎหมายดำเนินคดีทุกคนไม่เว้น
ต่อมา พ.ต.อ.อภิชาต พุทธบุญ ผกก.สภ.เมืองราชบุรี พร้อมทั้ง พ.ต.ท.สุรินทร์ แสงประทุม หัวหน้าพนักงานสอบสวน พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมเพื่อหาแนวทางการสอบสวนเพื่อให้ได้ความเป้นจริงโดยให้เข้าตรวจสอบเส้นทางที่เกิดเหตุและขอการสนับสนุนภาพจากล้องวงจรปิดเพื่อใช้มาเป็นหลักฐานพยานและให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่ายทั้งตำรวจอาสาพร้อมทั้งเด็กที่ประสบอุบัติเหตุโดยจะใช้กล้องวงจรปิดในพื้นที่เพื่อเป็นหลักฐานหาผู้ที่กระทำความผิดมาลงโทษพร้อมกันนี้ นางลัดดา อึ้งพานิช อายุ 53 ปี หมู่ที่ 2 ต.ท่าราบ อ.เมือง จ.ราชบุรี นำญาติ ๆเข้าพบ พ.ต.อ.อภิชาต พุทธบุญ ผกก. เพื่อขอความเป็นธรรมให้กับทางเด็กที่บาดเจ็บในเบื้องต้นได้ทำการแจ้งความว่ารถจักรยานยนต์ล้มเองจึงอยากจะให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแก้เป็นการถูกถีบล้มลงทำให้ได้รับบาดเจ็บซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งให้ทราบว่ารับเป็นคดีแล้วซึ่งจะทำการสอบพยานและหลักฐานพยานทั้งหมดเพื่อนำมาดำเนินการให้เกิดความเป็นธรรมให้กับทุกฝ่ายโดยมีนายประกาศิต เพ่งไพฑูรย์ ปลัดเทศบาลตำบลหลุมดิน เข้าร่วมเป็นสักขีพยานโดยจะให้ดำเนินการภาพจากล้องวงจรปิดของเทศบาลหลุมดินมามอบให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมทั้งขณะเกิดเหตุได้ให้ทางเจ้าหน้าที่นำคนเจ็บส่งโรงพยาบาลเพื่อช่วยเหลือในเบื้องต้น
ทางด้าน พ.ต.อ.อภิชาต พุทธบุญ ผกก.สภ.เมืองราชบุรี กล่าวว่า จะทำให้เกิดความเป็นธรรมเมื่อผิดก็ว่าไปตามผิดถูกก็ว่าไปตามถูกให้ชัดเจนตามวงจรปิดซึ่งแก้ใขกันไม่ได้อยู่แล้วซึ่งเป็นธรรมเบื้องต้นเป็นตำรวจอาสาซึ่งขณะนี้ได้เข้าไปทำการตรวจสอบวงจรปิดในเส้นทางที่เกิดเหตุซึ่งที่มีออกมาเป็นบางส่วนเท่านั้นยังไม่ชัดเจนโดยได้สั่งให้ทางขบวนการสืบสวนสอบสวนทำให้เต็บขบวนความเพื่อพูดไปแล้วจะได้เป็นการสนับสนุนคำพูดตนเองจะให้ความเป้นธรรมทั้งสองฝ่ายผู้บังคับบัญชาเป้นห่วงให้นโยบายมาหากเป็นตำรวจอาสาทำผิดก็จะดำเนินคดีหากพิสูจน์ได้ว่าใครทำผิดก็จะดำเนินคดีไม่ว่าจะเป็นตำรวจอาสาหรือผู้ที่โพสต์ลงให้เกิดความเสียหาย
ล่าสุดได้มีพลเมืองดีได้ส่งภาพวงจรปิดที่เป็นเส้นทางผ่านห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 1 กม.จากคันที่วิ่งนำหน้านำห่างจากตำรวจอาสาประมาณ 7 วินาที ซึ่งจะทิ้งห่างกันกว่า 30 เมตรซึ่งมีรถยนต์จากหัวหน้าชุดมังกรแดงตามมาห่างๆกว่า 2 กิโลเมตร ซึ่งขณะนั้นไม่มีรถจักรยานยนต์ติดตามมาเลย
