ชลประทานเตรียมย่อยมวลน้ำเข้าสุพรรณฯ-ลพบุรี ลดผลกระทบอ่างทอง-อยุธยา

เมื่อวันที่ 4 กันยายน เวลา 09.00 น. ตรวจสอบสถานการณ์น้ำลุ่มเจ้าพระยา ปริมาณน้ำจากภาคเหนือที่ไหลเข้าสู่เขื่อนเจ้าพระยายังคงเพิ่มขึ้น โดยเช้านี้วัดได้ 1,876 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ขณะที่ระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มขึ้นเช่นกันวัดได้ 16.41 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ส่วนทางด้านท้ายเขื่อนยังทรงตัวอยู่ที่ 13.60 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง โดยเขื่อนเจ้าพระยายังคงการระบายน้ำไว้ที่ 1,498 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อลดผลกระทบพื้นที่ริมตลิ่งท้ายเขื่อนใน จ.อ่างทอง และพระนครศรีอยุธยา

ส่วนแผนการรับมืออิทธิพลของหย่อมความกดอากาศต่ำที่พาดผ่านภาคเหนือ ซึ่งจะทำให้มีฝนตกชุกระหว่างวันที่ 4-7 กันยายน และความว่าจะมีปริมาณน้ำลงมาสมทบในทุ่งเจ้าพระยา จะมีการพิจารณาย่อยมวลน้ำออก โดยจะเพิ่มการรับน้ำเข้าคลองมะขามเฒ่า-อู่ทอง และแม่น้ำท่าจีน ที่จะผ่าน จ.สุพรรณบุรี นครปฐม ไปลงอ่าวไทยในฝั่งตะวันตก และเพิ่มการรับน้ำเข้าคลองชัยนาท-ป่าสัก ผ่าน จ.ลพบุรี ปทุมธานี และคลองชัยนาท-อยุธยา ในฝั่งตะวันออก เพื่อช่วยลดผลกระทบ 3 จังหวัดท้ายเขื่อน คือ สิงห์บุรี อ่างทอง และพระนครศรีอยุธยา โดยจะระบายน้ำลงท้ายเขื่อนในเกณฑ์ 1,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แต่พื้นที่เสี่ยงลุ่มต่ำริมตลิ่งยังต้องติดตามประกาศจากทางราชการอย่างใกล้ชิดต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image