3 หนุ่มเมากลับจากผับ ซิ่งกระบะแหกโค้งชนเสาไฟฟ้าเสียชีวิต 2 ราย

3 หนุ่มกลับจากผับชื่อดังแล้วขับรถกระบะแหกโค้งกำนันเชย ชนเสาไฟฟ้า เสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บอีก 1 ราย เจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าเมาได้ที่แล้วขับขี่รถด้วยความเร็วจนทำให้เกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ

เมื่อเวลา 03.00 น.ของวันที่ 4 กันยายน ร.ต.อ.นพดล ไม้งาม พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุรถกระบะชนเสาไฟฟ้า มีผู้เสียชีวิตและติดอยู่ภายใน ที่บริเวณโค้งกำนันเชย ถนนพิชัยสงคราม ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก หลังจากรับแจ้งจึงรุดไปตรวจที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยข่าวภาพพิษณุโลก ในที่เกิดเหตุพบรถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีดำ หมายทะเบียน บว 6487 พิษณุโลก พุ่งชนอัดติดกับเสาไฟฟ้าลักษณะงอ มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 รายติดอยู่ภายใน ทางเจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยข่าวภาพจึงต้องช่วยกันนำเครื่องตัดถ่างนำร่างผู้เสียชีวิตและช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บออกมาและรีบนำส่งโรงพยาบาลกรุงเทพ-พิษณุโลก และโรงพยาบาลพุทธชินราช ทราบชื่อผู้เสียชีวิตต่อมาคือ นายณัฐสิทธิ์ จั่นอยู่ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1004 ถนนบรมไตรโลกนารถ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก และเป็นผู้ขับรถยนต์คันดังกล่าว นายพิรุฬห์ เพ็ชวารินทร์ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 524/11 ถนนบรมไตรโลกนารถ 2 ต.ในเมือง อ.เมืองพิษณุโลก เสียชีวิตที่โรงพยาบาล

จากการสอบถามเพื่อนของผู้เสียชีวิตทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายณัฐสิทธิ์ ผู้เสียชีวิตและเพื่อนได้ไปเที่ยวผับโฟไซเคิล สถานบันเทิงบริเวณสามแยกบิ๊กซี หลังจากผับเลิกก็ได้นัดกันไปกินก๋วยเตี๋ยวในตัวเมือง โดยนายณัฐสิทธิ์ได้ขับขี่ โดยระหว่างทางก็ได้โทรศัพท์ติดต่อกัน แต่ก็ไม่มีใครรับจนได้รับแจ้งกับเพื่อนว่า นายณัฐสิทธิ์ประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิตและเพื่อนอีก 2 คนได้รับบาดเจ็บดังกล่าว เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่านายณัฐสิทธิ์ ผู้เสียชีวิต ขับขี่รถด้วยความเร็วขณะมึนเมา จนมาถึงที่เกิดเหตุเป็นโค้งไม่รับ มักเกิดอุบัติเหตุหลายครั้ง ทำให้นายณัฐสิทธิ์เสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้า เป็นเหตุให้เสียชีวิต 2 ราย และอีกรายนายฤทธิไกร เพียรกลาง อายุ 21 ปี ภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 1143 ถนนพุทธบูชา ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก บาดเจ็บสาหัส เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สอบสวนข้อเท็จจริงอีกครั้ง

สำหรับโค้งกำนันเชย ถนนพิชัยสงคราม อ.เมืองพิษณุโลก เป็นโค้งอันตรายที่ประสบอุบัติเหตุรุนแรงมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตหลายครั้ง แม้ว่าจะเป็นถนนขนาดสี่เลนทั้งขาเข้าและขาออกเมือง ที่ผ่านมากรมทางหลวงได้ทำป้ายเตือน สัญญาณไฟ สัญญาณสะท้อนแสง และเขียนตัวเลขให้ระมัดระวัง จำกัดความเร็วที่ 45 กม.ต่อชั่วโมง แต่ก็ยังคงมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นเสมอ โดยเฉพาะในช่วงกลางคืน

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image