เมื่อวันที่ 9 กันยายน นายวิศัลย์ โฆษิตานนท์ แกนนำกลุ่มคนเพชรบูรณ์ไม่เอาเหมืองแร่ กล่าวถึงกรณีที่บริษัทเอกชนเริ่มส่งตัวแทนเปิดเวทีชี้แจงถึงการสำรวจแร่ในเขตพื้นที่ที่บริษัทได้รับอนุญาตอาชญาบัตรพิเศษสำรวจแร่ในเขตพื้นที่ 3 ตำบล ได้แก่ ต.หนองไผ่ ต.นาเฉลียง และต.ยางงาม ว่าเรื่องการเปิดเวทีชี้แจงของบริษัทเอกชนอยู่ในความคาดหมายของทางกลุ่มและเครือข่ายคัดค้านไม่เอาเหมืองแร่มาตลอด เนื่องจากมีผลประโยชน์หมื่นล้านบาทเป็นหลักประกัน แต่จุดยืนของทางกลุ่มและเครือข่ายก็มีความชัดเจน คือคนเพชรบูรณ์ไม่ต้องการเหมืองแร่ ส่วนเหตุการณ์ที่บ้านคลองยาง หมู่ 9 ต.หนองไผ่ ซึ่งทางบริษัทฯเปิดเวทีชี้แจงก็เป็นการแสดงออกของชาวบ้านอย่างชัดเจนและเป็นเอกฉันท์ โดยไม่ต้องการให้เข้ามาสำรวจแร่และยืนยันไม่เอาเหมืองแร่ ก็ทำให้ทางกลุ่มและเครือข่ายประเมินว่าตลอด 2 ปีที่ลงพื้นที่ตระเวนให้ความรู้เพื่อให้ชาวบ้านมีภูมิคุ้มกันได้ผลระดับหนึ่ง กระทั่งไม่หลงคารมตัวแทนบริษัทที่พยายามชี้แจงโน้มน้าวชาวบ้านให้คล้อยตาม
“สิ่งที่กลุ่มและเครือข่ายฯประเมินได้อีกอย่าง คือพื้นที่ในเขต 3 ตำบลเป็นเขตที่ชาวบ้านตื่นตัวและมีการคัดค้านกันมาก และก่อนหน้านี้ทางบริษัทเอกชนมีการนำเรื่องเข้า 2 สภาอบต.เพื่อขอมติเข้าสำรวจแร่ทั้งที่ไม่ผ่านความเห็นชอบ แต่ทางบริษัทเอกชนก็ยังพยายามจะเข้าสำรวจแร่ให้ได้ จึงสอดคล้องกับข้อมูลทางธรณีฟิสิกซ์ที่มีอยู่ในมือของกลุ่มและเครือข่ายเรา ซึ่งระบุว่าบริเวณนี้มีแร่ทองแดงหนาแน่นที่สุดจึงน่าจะเป็นเป้าหมายที่บริษัทเอกชนจะเข้าสำรวจแร่ให้ได้” นายวิศัลย์กล่าว
อนึ่ง เมื่อวันที่ 8 กันยายนที่ผ่านมา ตัวแทนบริษัทสำรวจแร่ได้เปิดเวทีชี้แจงที่ศาลากลางบ้าน หมู่ 9 บ้างคลองยาง ต.หนองไผ่ มีนายสุพนธ์ มาเรียน ผู้ใหญ่บ้านนำชาวบ้านราว 100 คนเข้าร่วมรับฟัง และมีตัวแทนกลุ่มเครือข่ายคนเพชรบูรณ์ไม่เอาเหมืองแร่เข้าร่วมสังเกตการณ์ ทั้งนี้ตัวแทนบริษัทได้ชี้แจงถึงสาเหตุและขั้นตอนการสำรวจแร่ โดยยืนยันไม่ใช่ทำเหมืองแร่ และบริษัทไม่มีเหมืองแร่แม้แต่แห่งเดียวโดยให้ไปสืบค้นหาข้อมูล และยังบอกอีกว่าบริษัทได้อาชญาบัตรสำรวจแร่ใน จ.เพชรบูรณ์ 37 แปลงแต่ถอนไป 20 แปลงปัจจุบันเหลือแค่ 17 แปลง อย่างไรก็ตามในการชี้แจงชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่ตอบรับการเข้าสำรวจของทางบริษัท ขณะเดียวกันยังร่วมกับกลุ่มเครือข่ายชูป้ายคัดค้านไม่เอาเหมืองแร่อีกด้วย
