แม่ทัพภาค 4 สั่งล่าชายทำลาย “กุโบร์” หลังชาวบ้านถ่ายภาพได้ขณะก่อเหตุ

เมื่อวันที่ 11 กันยายน ที่มณฑลทหารบกที่ 46 ค่ายอิงคยุทธบริหาร ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี พ.อ.ยุทธนาม เพชรม่วง รองโฆษก กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ภาค 4 ส่วนหน้า พร้อม พ.ท.โกเมธ รัตนผ่องใส ผบ.ฉก.ปัตตานี 23 นายสมศักดิ์ ทิพย์มณี ปลัดอาวุโส อ.เมืองปัตตานี นายอัมรัน สะนิ กำนัน ต.รูสะมิแล นายซาบะ ยาแม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.รูสะมิแล นายดอเลาะ หะยีมามุ และนายมูฮัมหมัด สะแม คอเต็บ โต๊ะอิหม่าม ได้ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงกรณีเมื่อวันที่ 6 ก.ย. เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากประชาชนในพื้นที่บ้านรูสะมิแล หมู่ 1 ตำบลรูสะมิแล อ.เมืองปัตตานี ว่า พบชายวัยรุ่นแปลกหน้าอายุประมาณ 25 ปี จำนวน 1 คน สวมใส่เสื้อยืดคล้ายทหาร ขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนมาจอดบริเวณหน้ากุโบร์ (สุสาน) บ้านรูสะมิแล และเดินเข้าไปภายในกุโบร์ ทำลายเสาหินจนได้รับความเสียหายหลายต้น ขณะนั้นชาวบ้านที่พบเห็นจึงใช้โทรศัพท์มือถือบันทึกภาพเอาไว้พร้อมแจ้งกำนันผู้ใหญ่บ้านและเจ้าหน้าที่ทหารตรวจสอบ

จากเหตุดังกล่าวได้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ทางลบในพื้นที่และในสื่อสังคมออนไลน์แพร่หลายอย่างกว้างขวาง โดยได้กล่าวหาว่า เจ้าหน้าที่ทหารเป็นผู้กระทำ ล่าสุด พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 สั่งการให้หน่วยกำลังในพื้นที่เร่งหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมาย พร้อมทั้งให้หน่วยเฉพาะกิจปัตตานีตรวจสอบข้อเท็จจริง และนำผู้กระทำผิดมาลงโทษโดยเร็ว อีกทั้งสั่งการให้เร่งสร้างความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนผ่านผู้นำศาสนาและอิหม่ามในทุกมัสยิดให้ร่วมกันเร่งติดตามผู้ก่อเหตุมาลงโทษให้เร็วที่สุด

ทั้งนี้การกระทำดังกล่าวได้มีฝ่ายผู้ไม่หวังดีนำภาพและข้อความโจมตีเป็นการกระทำของทหาร เพื่อหวังโจมตีและทำลายความน่าเชื่อถือ จึงขอให้อย่าหลงเชื่อข้อมูลเท็จที่ใส่ร้ายเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งอาจตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มผู้ไม่หวังดีจนทำให้เกิดความเข้าใจผิดและความเกลียดชังต่อเจ้าหน้าที่รัฐได้อีก เนื่องจากตลอดระยะเวลาที่ผ่านมายังคงมีความพยายามส่งต่อหรือแชร์ออกไปอย่างต่อเนื่อง และอยากให้เข้าใจว่ารัฐบาลไทยได้ให้การส่งเสริมและสนับสนุนทุกศาสนาอย่างเท่าเทียมกัน ไม่เคยลิดรอนหรือกีดกันสิ่งที่เป็นความเชื่อความศรัทธาของพี่น้องประชาชน จึงขอให้พี่น้องประชาชนเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการแจ้งเบาะแสข้อมูลข่าวสารความเคลื่อนไหว เพื่อติดตามจับกุมผู้กระทำความผิด

Advertisement

ขณะที่นายอัมรัน สะนิ กำนัน ได้มีการตรวจสอบกับผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.รูสะมิแล ทราบว่าในหมู่บ้านนั้นประชาชนไม่ได้ติดใจอะไร แต่อยากให้หน่วยงานความมั่นคงตรวจสอบและหาตัวผู้นำภาพถ่ายไปโพสต์พร้อมข้อความที่ส่อไปในทางการสร้างความแตกแยก หวังใช้ศาสนาเข้ามาเป็นส่วนช่วยกระพือข่าว ทั้งนี้อยากให้สังคมแยกแยะระหว่างผู้ที่กระทำผิดออกจากเรื่องของศาสนาที่ถูกต้องด้วย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image