จากกรณีมีนักศึกษาหญิงของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งใน จ.ลำปาง ถูกคนขับรถแท็กซี่ที่ให้บริการใน จ.ลำปาง พูดจาใส่ในลักษณะแทะโลม และใช้มือลูบขา ขณะนักศึกษาใช้บริการรถแท็กซี่สาธารณะไปตามเส้นทางใน จ.ลำปาง โดยนักศึกษาหญิงได้โทรศัพท์ร้องเรียนไปยังหมายเลขสายด่วนศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะ กรมการขนส่งทางบก 1584 เพื่อร้องเรียนเรื่องราวที่เกิดขึ้น จากนั้นทางสำนักงานขนส่งจังหวัดลำปาง จึงเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยได้ทำการสอบสวนทั้ง 2 ฝ่ายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งนักศึกษาหญิงคนดังกล่าว ซึ่งทราบว่าเป็นคนต่างจังหวัด และพึ่งมาเรียนที่มหาวิทยาลัยใน จ.ลำปาง
ส่วนคนขับรถคันดังกล่าว อายุ 64 ปี ชาว จ.ลำปาง ที่ถูกร้องเรียนดังกล่าว เดิมทีที่ทางสำนักงานขนส่งจังหวัดลำปาง ทราบเรื่อง และเรียกมาสอบสวนได้ให้การปฎิเสธว่าไม่ได้ทำ แต่ด้วยข้อมูล และหลักฐานที่มี จึงยอมรับว่า ได้พูดจาแทะโลมจริง แต่ไม่ได้ใช้มือลูบขา หรือทำการลวนลามแต่อย่างใด โดยอ้างว่า เป็นเหตุบังเอิญที่หยิบของที่ตกหล่น และอาจจะพลาดไปโดน โดยที่ไม่มีเจตนา หรือจงใจ อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่จึงได้เปรียบเทียบปรับตาม พรบ.รถยนต์ มาตรา 57 ในข้อหากล่าววาจาไม่สุภาพ เสียดสี ดูหมิ่น ก้าวร้าว หรือแสดงกิริยาในลักษณะดังกล่าวต่อผู้โดยสาร ซึ่งโทษสูงสุดปรับตามมาตรา 66/2 ไม่เกิน 1,000 บาท โดยทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ปรับเงินตามโทษสูงสุดดังกล่าวแล้ว เป็นจำนวนเงิน 1,000 บาท
ด้าน นายโสภณ พิทักษ์สาลี ขนส่งจังหวัดลำปาง เปิดเผยว่า ทางสำนักงานฯ ได้ลงโทษตามระเบียบสูงสุดตามข้อหานี้แล้ว ส่วนนักศึกษาผู้เสียหายหากติดใจเอาความ และต้องการแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายกับคนขับรถแท็กซี่คนดังกล่าว ก็สามารถดำเนินการได้ผ่านกระบวนการยุติธรรม ซึ่งสามารถไปแจ้งความร้องทุกข์กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ที่เกิดเหตุ เพื่อดำเนินการทางกฎหมายต่อไป สำหรับอำนาจตามระเบียบกรมการขนส่ง เกี่ยวกับรถโดยสารสารธารณะ ก็ได้ปฎิบัติตามกฎหมายที่บัญญัติไว้สูงสุดข้างต้นแล้ว คือ ปรับเงินไม่เกิน 1,000 บาท ซึ่งทางขนส่งจังหวัดลำปางก็ได้ปรับเต็มอัตราจำนวน 1,000 บาท กับคนขับแท็กซี่รายดังกล่าว
ด้านคนขับรถแท็กซี่ใน จ.ลำปาง รายอื่น ได้เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า จากข่าวดังกล่าวที่ออกไปถือว่ากระทบต่อการให้บริการบ้าง แต่ไม่มาก เพราะผู้โดยสารส่วนใหญ่จะเกิดความเข้าใจ ว่า เป็นพฤติกรรมเกิดขึ้นเฉพาะคน ไม่ได้เหมารวมทั้งหมด และผู้โดยสารส่วนใหญ่ ยังไว้วางใจในการใช้บริการรถแท็กซี่ลำปาง เนื่องจากที่ผ่านมา ข่าวออกไปว่า เจ้าของรถที่ให้เช่าได้ยึดรถคืนแล้ว เพื่อไม่ให้เช่าไปให้บริการประชาชนอีก จึงทำให้ไม่กระทบต่อการชิ้บริการ แต่ก็ถือว่ากระทบต่อภาพลักษณ์ให้แท็กซี่ลำปางเกิดความเสียหายพอสมควร ดังนั้น คนขับรถแท็กซี่ใน จ.ลำปาง มองว่า คนๆ นี้ ไม่ควรที่จะมาขับรถแท็กซี่บริการประชาชนอีก เพราะการพูดจากแทะโลมลักษณะดังกล่าวนั้น คนขับที่ก่อเรื่องได้ใช้คำพูดกับผู้มาใช้บริการเกือบทุกคนที่เป็นหญิง
