เมื่อวันที่ 15 กันยายน หลังเกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิด จำนวน 3 ลูก ในพื้นที่ จ.ยะลา ส่งผลให้เจ้าหน้าที่เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายนาย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 14 กันยายนที่ผ่านมานั้น ทำให้กองกำลังเจ้าหน้าที่ 4 ฝ่าย ประกอบด้วย ตำรวจ อาสาสมัครรักษาดินแดน ทหาร และกองกำลังภาคประชาชน ต้องตั้งด่านตรวจเข้ม 4 มุมเมือง ทั้งขาเข้า และ ออก ตัวเมืองนราธิวาส ประกอบด้วย ด่านตรวจยะกัง ถนนสายระแงะ – เมือง ด่านตรวจปลักปลา ถนนสายปัตตานี – เมือง ด่านตรวจริมน้ำ ถนนสายตากใบ – เมือง และด่านตรวจโรงไฟฟ้าเก่าเขตเทศบาลเมือง – ชายหาดนราทัศน์ โดยเจ้าหน้าที่ตรวจเข้มทั้งรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และบุคคลที่อาศัยมากับรถยนต์ทุกชนิดอย่างละเอียดรวมทั้งตรวจบัตรประชาชนทุกคนอย่างละเอียด เน้นบุคคลนอกพื้นที่ที่เข้ามาในเขตพื้นที่เป็นพิเศษ เพื่อสกัดบุคคลที่มีหมายจับลักลอบเข้ามาแฝงตัวแอบซ่อนตัวกบดานในพื้นที่
สำหรับบุคคลที่มากับรถจักรยานยนต์ เจ้าหน้าที่ต้องให้เปิดเบาะทุกคัน เพื่อตรวจสิ่งแปลกปลอมที่อาจจะมีวัตถุระเบิดแอบแฝงมากับรถจักรยานยนต์ ซึ่งสามารถนำวัตถุระเบิดซุกซ่อนไว้ในถังน้ำมันได้ สำหรับบุคคลที่ทางการต้องตัวหรือมีหมายจับนั้น เจ้าหน้าที่ได้นำบัตรประชาชนของประชาชนทุกใบนำมาเปรียบเทียบกับแฟ้มประวัติอาชญากรรมพร้อมทั้งทำการบันทึกการเดินทางเข้าและออกตัวเมืองด้วยกล้องวงจรปิดทุกราย เพื่อง่ายต่อการติดตามตัว หากสงสัยบุคคลรายใด สามารถค้นหาประวัติการเดินทางย้อนหลังได้ทันที
ส่วนในเส้นทางรอบชั้นในของเขตเทศบาลเมือง ยังมีการจัดเจ้าหน้าที่อีกหลายชุดตรวจเข้มตามจุดเซฟตี้โซนอีกชั้นหนึ่ง เน้นในเขตพื้นที่เศรษฐกิจและชุมชน แหล่งการค้าสำคัญ โรงแรม สถานที่ราชการ เป็นพิเศษตลอด 24 ชั่วโมง
ส่วนถนนสายหลัก และสายรองที่เชื่อมต่อระหว่างอำเภอต่างๆนั้น เจ้าหน้าที่ทหาร ชรบ.ร่วมกันจัดชุดลาดตระเวรและจัดชุดดักซุ่มพร้อมตั้งด่านจุดสกัดได้ตลอดเวลาเมื่อมีการร้องขอจากหน่วยอื่น
ในส่วนของพื้นที่หมู่บ้านห่างไกล และเสี่ยงต่อการเกิดเหตุบ่ายครั้งนั้น กำลังฝ่ายปกครอง ประกอบด้วยกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน คอยเป็นหูเป็นตาอีกทางหนึ่ง พร้อมสังเกตคนแปลกหน้าที่เข้ามามั่วสุมในหมู่บ้านและหากผิดสังเกตให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทหารเข้ามาตรวจสอบได้ทันที
