ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า สถานการณ์น้ำท่วมชุมชนในพื้นที่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ภายหลังจากที่เกิดฝนตกลงมาอย่างหนักติดต่อกันหลายวัน จนทำให้เกิดน้ำท่วมทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนกว่า 200 หลังคาเรือน ใน 5 หมู่บ้านเขต ต.หนองบัวศาลา ประกอบด้วยบ้านหนองตะลุมปุ๊กเก่า หมู่ 2, บ้านหนองปลิง หมู่ 3, บ้านหนองตาคง หมู่ 8, บ้านหนองปลิงใหม่ หมู่ 9 และบ้านหนองตะลุมปุ๊กใหม่ หมู่ 10
ล่าสุด วันที่ 4 ตุลาคม เวลา 13.00 น. สถานการณ์น้ำก็ยังไหลเข้าท่วมสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่บ้านหนองตะลุมปุ๊กเก่า หมู่ 2 ต.หนองบัวศาลา ซึ่งมีหลายหน่วยงานจัดกำลังเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยเหลือชาวบ้าน อาทิ ทหารอากาศกว่า 40 นาย จากกองบิน 1 จ.นครราชสีมา, เจ้าหน้าที่พร้อมกับเรือท้องแบนจำนวน 3 ลำจากสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 5, กำลังเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยฮุก 31 และหน่วยกู้ภัยสว่างเมตตาลงพื้นที่เข้าไปช่วยเหลือชาวบ้านที่ยังติดอยู่ในชุมชนออกมาที่ปลอดภัย ทั้งนี้จากการสำรวจพบว่าในหมู่บ้านหนองตะลุมปุ๊กเก่ามีบ้านเช่าจมน้ำกว่า 30 หลังคาเรือน
โดยผู้เช่าส่วนใหญ่เป็นพนักงานโรงงานอุตสาหกรรมสุรนารี เนื่องจากน้ำไหลเข้ามาในชุมชนอย่างรวดเร็ว ทำให้ไม่สามารถขนย้ายสิ่งของออกจากบ้านเช่าได้ทัน จึงส่งผลให้มีรถยนต์ 5 คัน และรถจักรยานยนต์กว่า 20 คัน จมน้ำมิดทั้งคัน เจ้าหน้าที่ทหารอากาศกองบิน 1 ต้องใช้เรือท้องแบนช่วยกันยกรถจักรยานยนต์ขึ้นเรือ เพื่อขนย้ายมาขึ้นฝั่ง ส่วนรถยนต์ยังไม่สามารถขนย้ายได้ เนื่องจากระดับน้ำลึกกว่า 1 เมตร มีสภาพไหลเชี่ยว และยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สาเหตุของน้ำท่วม ต.หนองบัวศาลาในครั้งนี้เกิดจากการก่อสร้างถนนบายพาสขวางทางน้ำที่จะไหลไปสู่ ต.หัวทะเล ประกอบกับน้ำที่ไหลมาจากค่ายสุรนารีและหมู่บ้านจามจุรีมีปริมาณมาก จากฝนที่ตกสะสมกันหลายวัน จึงส่งผลให้มวลน้ำทั้งหมดไหลมารวมกันที่บริเวณ 5 หมู่บ้านในเขต ต.หนองบัวศาลา อ.เมือง จ.นครราชสีมา สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนเป็นอย่างมาก ซึ่งทาง จ.นครราชสีมากำลังระดมหลายหน่วยงานเข้ามาช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น และจะมีการหารือเพื่อวางแผนแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในระยะยาวต่อไป
